กุยช่ายถือเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีความต้องการสูงในตลาด เนื่องจากนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารและยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาอาชีพที่น่าสนใจ ลงทุนน้อย การปลูกกุยช่ายเพื่อจำหน่ายจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยวิธีปลูกและการดูแลที่ไม่ยาก พร้อมกับความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วิธีปลูกกุยช่ายที่ง่ายและได้ผลผลิตดี
1. การเลือกสถานที่ปลูก กุยช่ายชอบแสงแดดจัด จึงควรเลือกพื้นที่โล่งแจ้ง แต่ระวังอย่าให้โดนแดดจัดเกินไป มิเช่นนั้นใบอาจไหม้ได้
2. เตรียมดิน กุยช่ายชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี คุณสามารถผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
3. วิธีขยายพันธุ์ สามารถเพาะเมล็ดหรือแยกหน่อก็ได้ แนะนำให้ใช้หน่อเพราะเร็วกว่า
4. การปลูก ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 10 ซม. ระยะห่างระหว่างแถวและต้น 30×30 ซม. หลังปลูกรดน้ำให้ชุ่มเป็นประจำ
5. การดูแลรักษา ให้น้ำสม่ำเสมอ ถอนวัชพืช และหมั่นพรวนดิน รวมถึงตัดแต่งใบเก่าและใบแห้งออกเป็นระยะ
6. เคล็ดลับ หากใบเริ่มเหลืองหรือแห้ง ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ สลับกับปุ๋ยเคมีสูตรสมดุลเป็นครั้งคราว
ประมาณการต้นทุนและรายได้
– ต้นทุนเริ่มต้น: 2,000 – 3,000 บาท สำหรับเมล็ดพันธุ์หรือหน่อพันธุ์ ปุ๋ย และอุปกรณ์เบื้องต้น
– รายได้เฉลี่ยต่อปี: หากปลูกในพื้นที่ 1 งาน (100 ตารางวา) จะได้ผลผลิตกุยช่ายสดประมาณ 800 กก. ราคากิโลกรัมละ 30 บาท คิดเป็นเงิน 24,000 บาท
– กำไรสุทธิ: โดยประมาณ 15,000 – 18,000 บาท สำหรับพื้นที่ขนาด 1 งาน
แนวทางการจำหน่ายกุยช่าย
1. ตลาดสด จำหน่ายในรูปกุยช่ายสด กิโลกรัมละ 25-35 บาท
2. จำหน่ายไปยังโรงงานผลิตอาหาร หรือร้านอาหารที่มีการใช้กุยช่ายเป็นวัตถุดิบ
3. แปรรูปเป็นกุยช่ายสดแช่เย็น แช่แข็ง หรือกุยช่ายผง มีมูลค่าเพิ่ม
4. จำหน่ายออนไลน์ผ่านตลาดกลางเช่น Shopee หรือตลาดนัดเกษตรกร
การปลูกกุยช่ายจึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจ ด้วยต้นทุนไม่สูงมาก แต่มีโอกาสทำรายได้ที่ดี หากบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม มีการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นับเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนสำหรับใครที่สนใจอาชีพเกษตร