รวมเคล็ดลับ “วิธีปลูกดอกขจร” พร้อมแนวทางการขาย อาชีพเสริมเกษตรกรรายได้ครึ่งแสน

การปลูกดอกขจรเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร เนื่องจากเป็นพืชที่มีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้เรามารวมเคล็ดลับในการปลูกดอกขจร พร้อมแนวทางการขายและสร้างรายได้เสริม

วิธีการปลูกดอกขจร
1. เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม ดอกขจรที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์ซุปเปอร์เอ็นโน และซันไรซ์ซันเซ็ท ซึ่งมีสีสันสวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาด
2. เตรียมแปลงปลูก โดยเลือกบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง และมีการระบายอากาศที่ดี
3. เตรียมดินและปุ๋ยคอก ดอกขจรชอบดินร่วนซุย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ก่อนปลูก เพื่อปรับสภาพดิน
4. วางแผนระยะปลูกและระบบน้ำ ควรปลูกห่างกัน 20-25 ซม. และจัดระบบน้ำพรมแดด หรือสปริงเกลอร์
5. ดูแลรักษา ให้น้ำสม่ำเสมอ พรวนดินเป็นระยะ และหมั่นตรวจสอบโรคและแมลงศัตรูพืช
6. เก็บเกี่ยว เมื่อดอกบานสมบูรณ์ โดยตัดรวงดอกที่มีสีสวย ไม่หลุดร่วงมาจำหน่าย

คำนวณต้นทุนและกำไรเบื้องต้น
– ต้นทุนปลูกดอกขจรต่อไร่ ประมาณ 15,000 – 20,000 บาท ครอบคลุมค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และค่าแรงงาน
– รายได้เฉลี่ยจากการขายดอกขจร อยู่ที่ 50,000 – 70,000 บาท ต่อไร่ต่อฤดูกาล

เคล็ดลับการปลูก
– คัดเลือกเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี เพื่อให้ได้ดอกสวยและอายุการเก็บเกี่ยวยาวนาน
– หมั่นพรวนดิน เพื่อระบายอากาศให้ดีและป้องกันการแน่นทึบ
– ใช้ปุ๋ยน้ำและปุ๋ยอินทรีย์เสริม เพื่อเพิ่มผลผลิต
– เก็บเกี่ยวอย่างระมัดระวัง เนื่องจากดอกขจรเปราะบางและสามารถชำรุดเสียหายได้ง่าย

แนวทางการขาย
1. จำหน่ายที่ตลาดสด โรงพยาบาล หรือร้านดอกไม้ท้องถิ่น
2. ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือเว็บขายดอกไม้ออนไลน์
3. ประสานงานกับบริษัทจัดจำหน่ายดอกไม้ หากปลูกในปริมาณมาก
4. ขายทั้งรวงและแบ่งขายเป็นดอกเดี่ยว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
5. สร้างแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

ด้วยความต้องการดอกขจรที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประกอบอาชีพนี้จึงถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรในการสร้างรายได้เสริม ด้วยการปลูกอย่างถูกต้องและการตลาดที่ดี ก็สามารถสร้างรายได้เกินครึ่งแสนบาทต่อปีได้ไม่ยาก

แสดงความคิดเห็น