ศูนย์ความงาม “APEX profound beauty”คุณภาพและบริการ
ครองใจลูกค้ามากว่า 20 ปี
เศรษฐกิจในขณะนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นภาวะซบเซา แต่ธุรกิจประเภทศูนย์ความงามยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากตามห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใจกลางเมืองต่างๆจะมีศูนย์เหล่านี้ตั้งอยู่นับสิบรายในพื้นที่เดียว เพราะใน
ปัจจุบัน ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามของตนเองกันมากขึ้น เพื่อประโยชน์ไปใช้ทั้งในการทำงานหรือการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ด้วยความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้น ศูนย์ความงามแต่ละแห่งจึงต้องมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ตัวเองและแข่งขันกันอย่างดุเดือด เช่นเดียวกับศูนย์ความงาม “APEX profound beauty” ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน
ศูนย์ความงาม APEX profound beauty นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 2538 โดย “แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโรงพยาบาลรามาธิบดีจนปัจจุบันนี้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากว่า 20 ปี ที่มาของศูนย์ความงามนี้เกิดจากความสามารถการมองเห็นตลาดธุรกิจความงามว่าจะมีการเติบโตค่อนข้างสูงในอนาคต และแพทย์หญิงนันทภัทร์ยังมีความต้องการที่จะสร้างศูนย์ความงามโดยคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยการนำความรู้และประสบการณ์ที่ตนมีอยู่นั้นมาผสมผสานเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อสร้างสรรค์อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ด้านความงามแขนงต่างๆ
จนปัจจุบันนี้ตลาดครีมบำรุงผิวพรรณของประเทศไทยมีเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นหลักหมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก แสดงให้เห็นถึงจำนวนคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นภายในอุตสาหกรรมซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญ เพราะส่วนแบ่งการตลาดของที่นี่จะถูกหั่นลดลง แต่อย่างไรก็ตามทางศูนย์ความงาม APEX profound beauty ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและตรงจุดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ การปลูกผม การกำจัดขน บำรุงผิวพรรณ การกำจัดไขมันถาวร ฯลฯ
นอกจากการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องแล้วกลยุทธ์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของ APEX profound beauty ยังมีส่วนผลักดันให้ศูนย์ความงามนี้ประสบความสำเร็จและดำรงอยู่ได้มานานกว่า 20 ปี กลยุทธ์ที่ใช้ในการโฆษณาที่ดีที่สุดของทางร้านคือ การบอกต่อแบบปากต่อปาก เพราะการโฆษณาเช่นนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยจากมาตรการคุมเข้มการโฆษณาทั้งปวง เนื่องจากธุรกิจความงามนั้นมักจะมีการอวดอ้างที่เกินจริง แต่การบอกต่อปากต่อปากเป็นความสมัครใจของลูกค้าที่จะกล่าวถึงแบรนด์เพราะได้รับการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีจริง กลยุทธ์นี้จึงสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ในสายตาลูกค้ามากที่สุด
แต่ในยุคของข้อมูลข่าวสารเช่นนี้การบอกต่อปากต่อปากนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป ทางศูนย์ความงาม APEX profound beauty ยังได้มีการโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆทั้งนิตยสารและหนังสือพิมพ์ และยังมีการ Tie-in ในรายการวิทยุเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม เพื่อประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการอัพเดทนวัตกรรมใหม่ๆที่ทางศูนย์มี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเกิดความรู้สึกสนใจนวัตกรรมนั้น
นอกจากกลยุทธ์การโฆษณาที่มีความสำคัญแล้วการขยายสาขาให้ครอบคลุมยังถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่มีสาขาอย่างทั่วถึงแม้คุณภาพจะดีเป็นที่ยอมรับมาก ลูกค้าก็สามารถเปลี่ยนใจไปใช้บริการศูนย์ความงามรายอื่นได้ เพราะได้รับการอำนวยความสะดวกมากกว่า สามารถเดินทางไปมาได้ง่ายกว่า โดยการขยายสาขาของ APEX profound beauty จะเน้นการตั้งสาขาบริเวณเมืองหลวงและหัวเมืองท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้จะมีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก ทำให้แบรนด์นั้นติดตาผู้บริโภคและสามารถนึกถึงได้เป็นลำดับต้นๆเมื่อต้องการใช้บริการศูนย์ความงาม
ทั้งนี้ ความสำเร็จที่ทางศูนย์ความงาม APEX profound beauty นั้นได้รับมีทั้งการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามานานกว่า 20 ปี ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจจำนวนมาก ทั้งยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพหลายรายการ เช่น รางวัล Thermageอันดับ 1 ของโลกในปี 2006 และอันดับ 1 ของเอเชียแปซิฟิกในปี 2008 และรางวัลโบท็อกซ์อันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิกถึง 7 ปีซ้อน
ข้อมูลติดต่อศูนย์ความงาม APEX profound beauty
เว็ปไซต์: www.apexprofoundbeauty.com
Facebook :www.facebook.com/ApexProfoundBeauty
E-mail :apexhaircenter@gmail.com
หมายเหตุ รูปภาพและวิดีโอที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น