ศูนย์ความงาม “Princess Beauty Center” แตกไลน์สปาเพิ่มบริการ รองรับลูกค้าอาเซียน

ศูนย์ความงาม “Princess Beauty Center” แตกไลน์สปาเพิ่มบริการ
รองรับลูกค้าอาเซียน

กระแสคนรักความสวยความงามในไทยยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าเม็ดเงินที่หมุนเวียนนั้นเป็นจำนวนหลักหมื่นล้านบาทต่อปีโดยเฉพาะศูนย์ความงามที่มีนับร้อยนับพันแห่งในประเทศไทย  แต่ด้วยสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงนี้ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจทั้งหลายเพื่อให้แบรนด์ของตนเองนั้นอยู่ได้ในอุตสาหกรรมนี้ เช่นเดียวกันกับศูนย์ความงาม “Princess Beauty Center” ที่ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่หลากหลายเพื่อประคองบริษัทในยามเศรษฐกิจซบเซา

ศูนย์ความงาม Princess Beauty Center บริหารงานโดย “คุณกนกพร เขมเตชิษฐ์” ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ความงามรายแรกๆของประเทศไทย ที่มาของศูนย์นี้มาจากความต้องการรองรับค่านิยมของคนไทยที่มีแนวโน้มสนใจการดูแลรักษาสุขภาพและความงามของตนเองมากขึ้น ซึ่งในสมัยนั้นเมื่อกล่าวถึงการเสริมสวย ทุกคนมักจะนึกถึงแค่เพียงการทำเล็บ การนวดหน้า การทำผมเท่านั้น ทางศูนย์Princess Beauty Center จึงสร้างจุดเด่นให้แก่แบรนด์ตนเองโดยการเป็นผู้ขำเข้านวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้เป็นรายแรก เช่น การยกกระชับใบหน้า การสลายไขมัน ฯลฯ โดยสาขาแรกที่เปิดคือสาขาสยามสแควร์

ต่อมาในช่วงประมาณปี 2542 กระแสการทำสปาเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทยทางศูนย์ความงามPrincess Beauty Center จึงมีการเพิ่มรูปแบบการบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มในส่วนของการนวดน้ำมันหอมระเหยและการนวดแบบอโรมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ต่อมาเป็นช่วงของการนำเมดิคัลเข้ามาใช้เพื่อการรักษาและดูแลความสวยงาม โดยผู้ที่สามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ต้องเป็นแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการยิงเลเซอร์หรือการศัลยกรรม ทางแบรนด์จึงขยายแผนกด้านเมดิคัลขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งสามารถเรียกความนิยมของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และในช่วงนี้ยังมีการปรับสัญลักษณ์ของแบรนด์จากภาพวาดใบหน้าคนเป็นรูปมงกุฎซึ่งสื่อถือความสวยอย่างเจ้าหญิง

ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่เห็นว่าธุรกิจสปาจะมีมูลค่าการเติบโตจำนวนมากในอนาคตจึงได้มีการแตกแบรนด์เพื่อให้บริการสปาโดยเฉพาะชื่อว่า “เวลเนสสปา” โดยมีจุดเด่นที่มีสปาสำหรับเด็กทำให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์การทรีตเมนต์แบบต่างๆ เช่น การนวดหน้าด้วยวาซาบิ การมาส์กหน้าด้วยชาดำของจีน การนวดด้วยไม้ไผ่ของญี่ปุ่น เป็นต้น

สำหรับแบรนด์Princess Beauty Center เองนั้นยังมีการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ในราคาประมาณ 1,000,000 บาท ในช่วงแรกของการเริ่มดำเนินธุรกิจนั้น ทางบริษัทจะมีการส่งคนมาช่วยดูและกิจการการดำเนินงานต่างๆอย่างใกล้ชิด และยังมีการขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว เพราะลาวนั้นเริ่มมีกำลังซื้อสูงมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนระดับปานกลางถึงสูง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของทางศูนย์

เมื่อศูนย์ความงาม Princess Beauty Center ได้มีการเติบโตเป็นที่รู้จักแล้ว ในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้ ทางแบรนด์ไม่ได้มุ่งหวังการเติบโตด้วยการขยายสาขาหรือยอดลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมากนัก เพียงใช้กลยุทธ์เพื่อการประคองให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้ ซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการบริหารงานของบริษัทคือ 5Ps ได้แก่ Place(สถานที่สะอาด หรูหรา เป็นสัดส่วน) Price(ราคาคุ้มค่า) Products (ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ) Perfect Treatment (ทรีตเมนท์คุณภาพ)Professional Service (การให้บริการอย่างมืออาชีพ)มีการจัดโปรโมชั่นใหม่ๆสม่ำเสมอ เพราะโปรโมชั่นเป็นสิ่งที่สามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมกับมีการโฆษณาอย่างต่อเนื่องโดยพรีเซ็นเตอร์สาวสวยทั้งนางงามและดารา ทั้งยังให้การสนับสนุนการประกวดนางงามด้วย

จากประสบการณ์ของคุณกนกพรที่ยาวนานกว่า 20 ปีนี้ทำให้ทราบว่าการให้บริการศูนย์ความงามเช่นนี้ผู้ให้บริการนั้นจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในบริการต่างๆที่มีด้วย ซึ่งก็คือพนักงานที่ต้องมีการอบรม ฝึกฝนและตรวจประเมินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รักษาระดับคุณภาพงานบริการไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะแม้ว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณมากแต่การบริการไม่ดีก็ไม่สามารถสร้างฐานลูกค้าประจำได้

ข้อมูลติดต่อศูนย์ความงาม Princess Beauty Center
เว็ปไซต์: www.princessbeauty.co.th
Facebook :Princess Beauty Center

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น