“สตาร์บัคส์” ชงกินเองที่บ้านได้ ร้านกาแฟสดจะไปอย่างไรต่อ?

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทผู้นำด้านกาแฟยักษ์ใหญ่อย่าง สตาร์บัคส์ ได้จับมือกับ เนสท์เล่ เป็นพันธมิตรด้านธุรกิจกาแฟ และเนสท์เล่ได้รับสิทธิขาดในการผลิตกาแฟสตาบัสค์ในรูปแบบ”กาแฟแคปซูล” รวมไปถึงชาสำเร็จรูปที่ใช้ภายใต้แบรนด์สตาร์บัคส์

โดยจะผลิตออกมาในรูปแบบแคปซูลกาแฟสดสตาร์บัคส์ เมนูซิกเนเจอร์ อาทิเช่น คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่ โคลัมเบีย ซึ่งผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% จากสวนในแหล่งปลูกกาแฟชั้นนำระดับโลก วางขายนำร่องไปแล้วในซุปเปอร์มาเก็ตต่างประเทศและขายผ่านออนไลน์ และในประเทศไทยก็ได้เริ่มวางขายไปแล้วสดๆร้อนๆ ซึ่งก็หมายความว่าต่อไปนี้ผู้บริโภคจะสามารถ”ชงกาแฟสตารบัคส์”ดื่มเองได้ที่บ้าน เพียงแค่มีเครื่องชงกาแฟแคปซูล

Starbucks coffee at home ราคากล่องละ 299 บาท มี 12 แคปซูล ซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศและสั่งซื้อออนไลน์ เปิดตัวผลิตภัณ์กาแฟกลุ่มแรก คือ

• สตาร์บัคส์ เอสเพรสโซ่ โรสต์
• สตาร์บัคส์ คาปูชิโน่
• สตาร์บัคส์ โคลัมเบีย เอสเพรสโซ่
• สตาร์บัคส์ วีรันดา เบลนด์ อเมริกาโน่
• สตาร์บัคส์ เฮาส์ เบลนด์ อเมริกาโน่

จากความร่วมมือดังกล่าว แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่สามารถดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ แบรนด์กาแฟระดับโลกได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน

ในขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านกาแฟ อาจมีร้อนๆหนาวๆกันได้เมื่อกาแฟสำเร็จรูปสตาร์บัคส์มาถึง เพราะเมื่อลองคำนวนราคาแล้วตกแคปซูลละ 24.91 บาทเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่ถูกมาก เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพที่ผู้บริโภคจะได้รับ การกระจายตัวของผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อต้องแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอีกในอุตสาหกรรมกาแฟซึ่งก็มีการแข่งขันกันอย่างสูงแล้ว ผู้ประกอบการควรที่จะเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้