หมวกกันน็อก “O-Skull” พ่วงกระแสบิ๊กไบค์
ขายหมวกกันน็อกงานฝีมือโดนใจนักขี่
การขี่บิ๊กไบค์เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นจึงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะสามารถเห็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่นี้วิ่งอยู่บนท้องถนน ทั้งแบบขี่มาคันเดียวหรือมากันเป็นกลุ่มใหญ่ ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่ารถทั่วไปจึงทำให้คนขับขี่สามารถบังคับรถได้ยาก และมีโอกาสสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น หมวกกันน็อกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ยิ่งยอดขายบิ๊กไบค์เติบโตมากเท่าไร ยอดขายหมวกกันน็อกเองก็ไม่แพ้กัน จึงเป็นโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจหน้าใหม่ๆจำนวนมาก
“O-Skull” ธุรกิจหน้าใหม่ที่เพิ่งดำเนินกิจการมาได้ปีกว่าๆโดยการขายหมวกกันน็อกเพ้นต์ลายเป็นสินค้าหลัก เจ้าของกิจการคือ “คุณโอ-อันทพัทฏ์ พลเยี่ยม” ที่มองเห็นโอกาสการทำธุรกิจนี้และลาออกจากงานประจำมาเดินหน้าอย่างเต็มตัว ตอนแรกเขาจบการศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลังจากนั้นเป็นพนักงานตำแหน่งครีเอทีฟเป็นเวลา 10 กว่าปี แต่ในระหว่างที่ทำงานก็ได้ทดลองขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์กับเพื่อน แต่ตอนแรกยังเลือกไม่ได้จนสรุปที่ หมวกกันน็อกซึ่งสามารถนำสินค้ามาต่อยอดได้มากกว่า
หมวกกันน็อก O-Skull มีความโดดเด่นที่หมวกแต่ละใบนั้นเป็นงานเพ้นต์ลายที่มีเอกลักษณ์ โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ลายหัวกะโหลกและลายกราฟฟิก และแบบสติ๊กเกอร์ซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะทุกลายล้วนเกิดจากการออกแบบโดยคุณโอทั้งสิ้น ชื่อแบรนด์ O-Skull เองได้ถูกคิดมาจากการนำชื่อของคุณโอและคำว่าหัวกะโหลกมารวมกัน สามารถบ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้ นอกจากงานฝีมือที่มีเพียงชิ้นเดียวแล้ว ทางร้านยังได้มีการขายหมวกกันน็อกลายมาตรฐานส่งตรงจากโรงงานในราคา 450 บาทต่อใบ ในขณะที่งานเพ้นต์ราคาใบละ 850-4,000 บาท
นอกจากการจำหน่ายหมวกกันน็อกแล้ว ทางร้านยังมีการผลิตตามที่ลูกค้าต้องการได้ทั้งงานเพ้นต์ลายและงานสติ๊กเกอร์ที่มีความทนทานไม่ต่างกัน ทั้งการวาดลวดลายด้วยปากกาอะคริลิกและสีพ่นรถยนต์ที่ทำให้หมวกดูเงางาม ทันสมัย ถูกใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ถือเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของแบรนด์
ส่วนสิ่งที่ทางร้านจะไม่ลืมพิจารณาเป็นอย่างยิ่งคือด้านความปลอดภัย แน่นอนว่าหมวกกันน็อกเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยด้านความปลอดภัย สินค้าที่วางขายในร้านจึงต้องมีมาตรฐาน ซึ่งเป็นหมวกที่มีการขึ้นรูปพลาสติก ABS ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง ภายในบุด้วยฟองน้ำขนาดหนาที่ช่วยลดแรงกระแทก อีกทั้งยังผ่านมาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่จำหน่ายในประเทศไทย
ลูกค้ากลุ่มหลักของแบรนด์คือ นักขี่บิ๊กไบค์ทั้งหลาย ที่ให้ความสนใจในรูปทรงและลวดลายของหมวก รองลงมาคือกลุ่มวัยรุ่นที่มีความชื่นชอบรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า Open Face Classic รองงมาคือกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีจำนวนสูงถึง 30% ได้แก่ ชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง และแอฟริกาใต้ โดยในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศนี้เขาได้วางแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น
กำลังการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 40 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่เขาประมาณ 1 แสนบาทต่อเดือน เดิมนั้นเขามีการเปิดหน้าร้านที่ตลาดนัดจตุจักรเจเจกรีนและขายเฉพาะวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์เท่านั้น แต่ตอนนี้ได้มีการขยับขยายเปิดสตูดิโอที่ซอยพัฒนาการ 30 เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจในแบรนด์สามารถเดินทางไปเข้าชมสินค้าได้ตลอดเวลา ทั้งหมวกกันน็อกและสินค้าอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ถุงมือหนัง แว่นตากันลม เป็นต้น และแม้ว่าจะเริ่มมีคู่แข่งตบเท้าก้าวเข้าสู่ตลาดประเภทเดียวกันมากขึ้น แต่ด้วยกระแสความนิยมบิ๊กไบค์ยังไม่หมดไปจะทำให้ยอดขายของร้านยังคงเติบโตขึ้นได้โดยอาศัยจุดแข็งของ O-Skull
ข้อมูลติดต่อหมวกกันน็อก O-Skull
Facebook : O Skull Story Helmet&motorcycle accessories
เบอร์โทรศัพท์ : 094-8641625
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : O-Skull
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์
Hello! Do you know if they make any plugins to help with Search Engine
Optimization? I’m trying to get my blog to rank for some targeted keywords
but I’m not seeing very good gains. If you know of any please share.
Many thanks! You can read similar article here: Eco product