อาชีพทำเงิน ปลูกผักบุ้งขาย
หารายได้เสริมหลักหมื่นไม่ใช่เรื่องยาก
ปลูกผักขาย ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสร้างอาชีพให้มีรายได้ หากมีเวลาว่างนอกเหนือจากการทำงานประจำก็สามารถทำอาชีพนี้เพื่อหารายได้ให้กับตัวเองได้อย่างง่ายดาย เพราะการปลูกผักขายเป็นอาชีพที่ไม่ต้องลงทุนมากนัก อีกทั้งยังสามารถปลูกภายในบ้านได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องออกไปหาเช่าพื้นที่ข้างนอก ขั้นตอนการทำก็แสนง่าย และด้วยหลายเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้การปลูกผักขายกลายเป็นอาชีพที่น่าสนใจ
ปลูกผักขาย เป็นอาชีพที่เหมาะกับแม่บ้านที่อยากมีรายได้เสริม รวมถึงคนที่ทำงานประจำอยู่แล้ว หากแบ่งเวลาวันหยุดมาเพาะผักและทำการดูแลหลังเลิกงานก็ได้เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นแม้แต่นักเรียน นักศึกษา ก็สามารถทำอาชีพปลูกผักขายได้ด้วย รายได้น่าสนใจเพราะมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ แต่สามารถนำไปขายได้ราคาดีส่งผลต่อกำไรที่เหมาะสม จากที่ผ่านมามีหลายตัวอย่างที่ทำการปลูกผักขายจนได้ดิบได้ดี บางรายหาเงินค่าเทอมได้โดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ หรือบางรายก็มีรายได้เสริมจากงานประจำ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวมารองรับกับค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้อย่างลงตัว
อาชีพปลูกผักขายครั้งนี้ขอนำเสนอผักบุ้งที่เป็นหนึ่งในพืชผักสวนครัวยอดนิยม ทั้งยังเป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าหลายราย สามารถสร้างกำไรง่ายๆ จากขั้นตอนการปลูกเพียงไม่กี่ขั้นตอน โดยแบ่งขั้นตอนการปลูกผักบุ้งออกเป็น 2 ขั้นตอนก็คือ ขั้นตอนการเพาะเมล็ด และขั้นตอนการเตรียมดิน
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด
1.ล้างเมล็ดผักบุ้งให้สะอาดแล้วนำเมล็ดไปแช่ในน้ำต่ออีก 12 ชั่วโมง
2.หลังจากนั้นนำเมล็ดผักบุ้งเช็ดให้แห้ง และห่อด้วยผ้าเปียกต่ออีก 12 ชั่วโมง
3.เมล็ดผักบุ้งที่ผ่านการแช่น้ำ จะมีรากสีขาวงอกออกมา
ขั้นตอนการเตรียมดิน
- ผสมแกลบดำเข้ากันกับดินละเอียดแล้วผสมขุยมะพร้าวละเอียดด้วยอัตรา 1:1
- นำดินเทใส่ภาชนะที่จะปลูก อาทิ ตะกร้า กะละมัง โดยให้ใส่ดินสูง 1.5 นิ้ว
- นำเมล็ดผักบุ้งโรยลงไปในดินให้พอดีกับภาชนะที่จะปลูก รดน้ำให้ชุ่ม หาตะกร้ามาวางทับบนดินอีกที เพื่อให้รากหยั่งลึกลงดิน 2 วัน
- หลังจากวันที่ 3 เปิดตะกร้าที่วางทับบนดินออก เพื่อให้แสงแดดส่องถึงต้นอ่อนผักบุ้ง ทำการรดน้ำ เช้า – เย็น ปลูกต่อไปอีก 7 วัน หลังจากนั้นสามารถตัดไปขายได้
สำหรับการปลูกผักขายสามารถทำกำไรได้ถึงหลักหมื่นต่อเดือน แต่ต้องปลูกผักชนิดอื่นร่วมด้วย ผักสวนครัวที่แนะนำ ได้แก่ ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนผักบุ้ง ต้นอ่อนหัวไชเท้า เบบี้คะน้า และผักโตเหมี่ยว รายได้เฉลี่ยจากผักชนิดดังกล่าวรวมกันอยู่ที่หมื่นบาทต่อเดือน โดยการส่งขายตามตลาดนัดใกล้หมู่บ้านตามออร์เดอร์
ต้นทุนของการผลิตผักบุ้ง เมล็ดผักบุ้ง 1 กิโลกรัมราคาท้องตลาดขายอยู่ 150 บาท โดยเมล็ดผักบุ้ง 1 กิโลกรัม สามารถเพาะต้นอ่อนได้ 4 กิโลกรัม สามารถขายได้ขีดละ 15 บาทในส่วนของผักบุ้ง และราคาขายผักชนิดอื่นๆ อย่างเบบี้คะน้าสามารถขายได้ขีดละ 20 บาท ต้นอ่อนหัวไชเท้าสามารถขายได้ขีดละ 20 บาท
อาชีพปลูกผักขายเป็นอาชีพที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เนื่องจากใช้ความรู้พื้นฐานที่ไม่ลงลึกหรือเฉพาะตัวมากนัก สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองและลองผิดลองถูกได้ด้วยตนเองเช่นกัน ในส่วนของต้นทุนอาชีพปลูกผักจัดว่ามีต้นทุนที่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนมาก ทั้งยังสามารถสร้างรายได้ที่น่าสนใจ เช่น การเพาะผักบุ้งขาย จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นว่าต้นทุนผักบุ้งอยู่ที่ 150 บาทต่อเมล็ด 1 กิโลกรัม สามารถนำมาเพาะต้นอ่อนได้ 4 กิโลกรัม คิดเป็นต้นทุนต่อขีดอยู่ที่ 3.75 บาท แต่สามารถขายได้ขีดละ 15 บาท หักต้นทุนแล้วเหลือกำไร 11.25 บาทต่อขีด