อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมเสตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

  อาชีพเลี้ยงปู ฟาร์มปูนิ่มและโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง (1)

อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

สินค้าเกษตรเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับการควบคุม เพราะปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับธรรมชาติ ที่มีผลกระทบต่อผลผลิตอย่างมาก ทำให้ไม่อาจควบคุมได้ในหลายๆ ครั้ง เพราะไม่มีใครสามารถสั่งดินฟ้าอากาศได้ หรือว่าง่ายๆ ก็คือไม่มีใครสามารถควบคุมธรรมชาติได้นั่นเอง ทำให้ผลผลิตเกษตรหลายครั้งเป็นเรื่องที่ถูกมองข้าม กับสิ่งที่คาดคะเนไม่ได้ ทั้งจะวางแผนก็เป็นเรื่องที่ยากอีก บวกกับอุปสรรคมากมายที่ต้องเผชิญ เพียงแค่นึกถึงในยามที่ลมฟ้าอากาศไม่เป็นใจ อาชีพเกษตรหนึ่งอาชีพที่เรากำลังจะพูดถึงในครั้งนี้คืออาชีพเลี้ยงปูนิ่มนั่นเอง โดย “คุณอารมณ์ เอิบสภาพ” และ “คุณวิไลวรรณ เอิบสภาพ” สองสามีภรรยาที่ร่วมล้มลุกคลุกคลานด้วยกันมากับการประกอบอาชีพเลี้ยงปูนิ่มกว่า 10 ปี ท่ามกลางอุปสรรคที่คอยจะกลั่นแกล้งกันตลอดเวลา บทจะดีก็ดีเว่อ บทจะแย่ก็เล่นเอาตั้งตัวแทบไม่ติดเหมือนกัน

อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

สองสามีภรรยาเล่าว่าก่อนมาทำอาชีพเลี้ยงปู เดิมทีเลี้ยงกุ้งมาก่อน ตอนนั้นกุ้งขายดีมากและขายได้ไว นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีช่วงหนึ่งที่มีรายได้ไม่ขาด แต่พอมาวันหนึ่งก็ประสบปัญหา กุ้งเป็นโรคก็ตายหมด ทำให้ขาดทุนกันไป คราวนี้สองสามีภรรยาก็เริ่มคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ ได้คำตอบที่มาเลี้ยงปลาประพงแทน โดยก่อนจะเลี้ยงศึกษาดูว่าราคาปลากะพงอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท แต่พอทั้งสองเริ่มเลี้ยงราคาปลาดันตกมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ก็ขาดทุนอีก แต่สองสามีภรรยาก็ยังไม่ย่อท้อ หันมาขายผลไม้ ขายข้าวโพดต้ม เพื่อส่งลูกเรียนต่อไป จนกระทั่งตอนหลังคุณอารมณ์ได้ไปรับจ้างเลี้ยงปู ก็ได้ประสบการณ์ตรงนั้นมาที่ทำให้เลี้ยงปูเป็น ส่วนคุณวิไลวรรณก็รับปูมาขายปรากฏว่าขายดีมาก จึงเริ่มเกิดความคิดที่จะประกอบอาชีพเลี้ยงปูเองเลย ทั้งสองสามีภรรยาจึงผันตัวเองมาประกอบอาชีพเลี้ยงปูในที่สุด

อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

ครั้งแรกลงปูทั้งหมด 2,000 ตัว ต่อมาก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 5,000 ตัว จนกระทั่งกลายเป็น 15,000 ตัว ขายไปขายมาช่วงนั้นปูขายดีจริงๆ ขายดีมากจนปูไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยวันนึงสามารถขายปูได้ถึงตันครึ่ง ก็นับว่ารายได้ดีมาก แต่แล้วความไม่แน่นอนก็เกิดขึ้น เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับสิ่งมีชีวิตจริงๆ เมื่ออยู่ไปอยู่มา ปูก็เริ่มตายไป 2-3 รอบ เล่นเอาทั้งสองเข้าสู่ภาวะขาดทุนอีกเช่นเคย แต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนอาชีพไปไหน ยังคงประกอบอาชีพเลี้ยงปูเหมือนเดิม เหตุผลก็เพราะปูนิ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปไปแล้ว จึงไม่อยากเลิก เพราะที่นี่เปิดให้คนภายนอกเข้ามาศึกษาดูงานด้วย ถ้าหากปิดไปคนที่มาไกลก็คงเสียเที่ยว จึงยังคงทำอาชีพเลี้ยงปูนิ่มไปเรื่อยๆ ตามเรื่องราว

อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

แต่ถ้าหากไม่หาอะไรเสริมก็คงแย่เหมือนกัน เพราะลำพังประกอบอาชีพเลี้ยงปูนิ่มอย่างเดียวคงไม่พอ สองสามีภรรยาจึงทำโฮมสเตย์ด้วย เพราะปกติการเปิดสถานที่ให้เข้าชมไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว จึงถือเอาโฮมสเตย์เป็นรายได้เสริมหนึ่งทาง ที่สามารถช่วยพยุงครอบครัวให้ไปต่อได้ ในขณะที่ยังประกอบอาชีพเลี้ยงปูอยู่ ลักษณะของโฮมสเตย์คือมีการทำบ้านเล็กๆ ขึ้นมา 3 หลัง ส่วนค่าเช่าที่พักทั้งสองก็คิดแบบถูกๆ ไม่แพงเลย เช่น บางครั้งมากัน 10 คนก็คิด 1,000 บาทเท่านั้นเอง ทั้งยังดำเนินธุรกิจภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากรับคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาแล้ว จะไม่มีการรับกลุ่มอื่นเข้ามาพักอีก ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกนั่นเอง

อาชีพเลี้ยงปู “ฟาร์มปูนิ่ม” และโฮมสเตย์ บรรยากาศดีๆ สร้างรายได้สองทาง!!

ในส่วนของราคาขายปูนิ่มเดิมทีจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท แต่ปัจจุบันได้มีการปรับราคาขึ้นแล้ว ตามกาลเวลาที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกลายเป็นกิโลกรัมละ 400 บาท กำไรของการขายปูนิ่มอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงปลาเก๋าและกุ้งกุลาควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทาง

ข้อมูลติดต่อฟาร์มปูนิ่ม
ที่อยู่ เลขที่ 5 หมู่ 5 บ้านคันนา ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด 23000
โทร. 086-383-0832

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *