เมื่อพูดถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเริ่มต้นทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม ร้านซาลอนหรือร้านทำผม มักจะเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆที่ผู้ประกอบการมักจะเลือก เพราะเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัย กล่าวคือ เป้นธุรกิจที่ตอบโจทย์พื้นฐานการใช้ชีวิต เป็นธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก และจากข้อมูลของเว็บไซต์ https://thesalonbusiness.com/cost-to-start-a-salonพบว่าอุตสาหกรรมความงามมีมูลค่าสูงถึง 532 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และนอกจากนี้ธุรกิจความงามยังเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ซึ่งมักจะไม่ได้รับผลกระทบในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย หรือได้รับผลกระทบน้อยมาก
หากคุณกำลังคิดที่จะเปิดร้านทำผม เคล็ดลับ 10 ข้อนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้คุณพัฒนาแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
- สร้างแผนธุรกิจร้านเสริมสวย
การเขียนแผนธุรกิจควรเป็นขั้นตอนแรกของคุณเมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจใดๆก็ตาม สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน “แผนธุรกิจเป็นกุญแจสำคัญในการเริ่มต้นร้านเสริมสวย” แผนดังกล่าวนำเสนอโร้ดแมปสำหรับเจ้าของร้านเสริมสวยในการปฏิบัติตามและช่วยให้ผู้ประกอบการพิจารณาธุรกิจทุกรอบด้าน เช่น
- พิจารณาด้านการเงิน ลงทุนเปิดร้านเสริมสวย ซาลอน อาจใช้เงินทุนจำมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าอุปกรณ์ ค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น
- มีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับตลาดร้านเสริมสวย รวมถึงขนาดของร้าน แนวโน้มการเติบโตของร้านในบนทำเลเหล่านี้ เป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างชัดเจนว่าคุณจะแข่งขันกับร้านอื่นๆ ได้อย่างไร
- มีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ลองคิดดูว่าคุณต้องการเปิดร้านเสริมสวย ร้านซาลอน แบบไหน? เช่น ร้านซาลอนสไตล์เกาหลี ร้านซาลอนแบบวินเทจ ซาลอนแบบโมเดิร์น เป็นต้น
- ศึกษากฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
กฎหมายและข้อบังคับจะแตกต่างกันไปตามสถานที่และประเทศ รวมถึงประเภทร้านเสริมสวย ร้านซาลอนที่คุณเปิดก็มีข้อบังคับที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่นในต่างประเทศ ร้านเสริมสวยที่ให้บริการทำผมแบบมืออาชีพจะต้องมีใบอนุญาตที่แตกต่างจากร้านเสริมสวยที่ให้บริการดูแลผิวหน้าหรือนวดด้วย
- หาวิธีทำให้ร้านเสริมสวยของคุณโดดเด่น
เป็นที่ทราบกันดีว่าร้านเสริมสวย ร้านซาลอน นั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นการจะแข่งขันกับคู่แข่งได้นั้น ร้านจะต้องสร้างความโดดเด่นขึ้มาให้กับร้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่สุดแสนจะประทับใจ สไตล์การออกแบบร้านที่สวยงามและบรรยากาศดี ความรู้ความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า ตลอดจนช่างชำนาญการฝือมือดี เป็นต้น เหล่านี้สามารถกลายเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ร้านของคุณเป็นที่จดจำของลูกค้าได้ ดังนั้นจะต้องสร้างเอกลักษณ์ของร้านขึ้นมาให้ได้
- ติดต่อตัวแทนจำหน่าย
การซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับร้านเสริมสวย ร้านซาลอนของคุณ ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้ กระจก แท่นซักและอบแห้ง แชมพู ครีมนวดผม หวี ไดร์เป่าผม ฯลฯ คุณจะต้องติดต่อตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นใกล้บ้าน หรือตัวแทนจำหน่าย ร้านขายส่งทั่วประเทศก็ได้เช่นกัน เพื่อให้ได้ราคาส่งหรือได้ราคาที่ดีที่สุด เมื่อคุณได้ตัวแทนจำหน่าย อย่าลืมเลือกซื้ออย่างระมัดระวังและพิจารณาราคา ข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่างๆให้ครบถ้วน
- พัฒนาฐานลูกค้าที่มั่นคง
ให้ความสำคัญกับลูกค้าและประสบการณ์การใช้บริการของพวกเขาเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากสิ่งนี้จะสร้างลูกค้าที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ และเมื่อนานวันเข้าลูกค้าที่ใช้บริการซ้ำๆเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นฐานลูกค้าหลัก ลูกค้าประจำของร้านไปโดยปริยาย
- เลือกทำเลที่เหมาะสมในการเปิดร้าน
ไม่ว่าผุ้ประกอบการจะซื้ออาคารหรือเช่าพื้นที่เปิดร้าน สถานที่ตั้งของร้านเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดในการเปิดร้านวาลอน และมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อทำการตัดสินใจเปิดร้าน เช่น ทำเลควรอยู่ในบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นและเข้าถึงได้ง่ายโดยรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะ และนอกจากนี้ต้องอยู่ห่างจากร้านเสริมสวย ร้านวาลอนคู่แข่งพอสมควร เพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งลูกค้ากัน
- จ้างนักออกแบบดีไซน์ร้าน
หากคุณมีเงินทุนเพียงพอ การจ้างนักออกแบบเพื่อช่วยคุณสร้างร้านเสริมสวยของคุณสามารถลดความเครียดในการออกแบบร้าน และมั่นใจได้ว่าพื้นที่ทำงานในร้านจะถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและใช้พื้นที่ได้อย่างเหมาะสม นักออกแบบสามารถช่วยกำหนดรูปลักษณ์โดยรวมของร้านให้สอดคล้องกับภาพร้านในจินตนาการของคุณได้
- ให้ความสำคัญกับพนักงาน
เนื่องจากความงามเป็นอุตสาหกรรมส่วนบุคคล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาพนักงานที่มีทักษะ ความรู้ และเป็นมิตรไว้ การสละเวลาเพื่อฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ครบถ้วนจะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้นและรักษาชื่อเสียงในวิชาชีพ
- รับฟังเสียงของลูกค้า
รวบรวมคำติชมจากลูกค้าสิ่งที่พวกเขาชอบและไม่ชอบเกี่ยวกับร้านเสริมสวยของคุณ สรุปลงในแผนธุรกิจของคุณ ว่าคุณตั้งใจจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไร และแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณให้ความสำคัญและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่ลูกค้าได้แนะนำติชมเข้ามา
10. ค่าบริการตามคุณภาพ
อาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าจะคิดค่าบริการเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ คุณควรพิจารณาทักษะ ฝีมือของช่าง สารเคมีที่ใช้ และพิจารณาดูต้นทุนต่างๆให้รอบคอบ และกำหนดราคาตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ราคาที่ร้านอื่นในพื้นที่เรียกเก็บ