เทคนิคเรียกลูกค้าเข้าร้าน ขายของในตลาดอย่างไรให้สนุก?

เทคนิคเรียกลูกค้าเข้าร้าน ขายของในตลาดอย่างไรให้สนุก?

เราทำทุกคนต่างก็ทราบกันดีว่า ค้าขายก็ต้องหวังผลกำไร เพราะนั่นคือปัจจัยในการขับเคลื่อนธุรกิจหรืออาชีพให้เดินหน้าไปต่อได้ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถขายดิบขายดีได้ทุกวัน ขายของก็เหมือนการเสี่ยงโชค วันไหนขายดีก็ดีไป แต่วันไหนขายไม่ดีก็ต้องทำใจ กัดฟันยิ้มสู้กันต่อไป ผนวกกับเศรษฐกิจที่ต้องยอมรับซบเซาเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการหลายรายก็ทยอยกันปิดกิจการไป แม่ค้าพ่อค้าก็พากันเลิกอาชีพไปเสียก็เยอะเพราะทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว และหันไปหาอาชีพอื่นกันแทน

แต่สำหรับคนที่ยังรักในอาชีพค้าขาย มีใจสู้ และกำลังมองหาไอเดียหรือเทคนิคการขาย เพื่อนำมาเป็นตัวช่วยในการประกอบการอาชีพขายของ วันนี้ทางทีมงาน SMEleader.com ได้นำเอาเทคนิคการเรียกลูกค้าเข้ามาฝากกัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ แม่ค้าพ่อค้าทั้งหลาย ดังนี้

1.จัดร้านค้าให้โดดเด่น

ปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านค้าของตัวเองบ้าง ไม่ให้ซ้ำซากจำเจ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งการวางสินค้า ป้ายชื่อร้านค้า ช่องทางการติดต่อร้าน ต้องแสดงให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ โซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง Facebook, Instargram, Line เป็นต้น นอกจากนี้ ขยันเลือกสินค้าแบบใหม่มาจัดใส่หุ่นโชว์บ่อยๆ เพื่อแสดงให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นว่าร้านเรามีสินค้ามาใหม่เยอะ ที่สำคัญแสงไฟขาดเสียไม่ได้ ต้องส่องให้เห็นสินค้าได้ชัดเจน ควรเลือกแสงสีส้มหรือสีนวล เวลามองจะรู้สึกสบายตา ลูกค้าก็เลือกซื้อได้นาน

2.พูด Keyword สำคัญ

หมายถึงสำคัญในการกระตุ้นความต้องการในการซื้อสินค้าของเล่นค้า เช่น “สินค้ามาใหม่ค่ะ, เชิญชมก่อนได้นะคะ ไม่ซื้อไม่ว่ากัน ลองเลือกดูก่อนได้ค่ะ สนใจชิ้นไหนสอบถามได้นะค่ะ” หรือ keyword แบบ hard sale ไปเลย เช่น “อยากขายค่ะอยากขาย ช่วยซื้อหน่อย” คำพูดเหล่านี้เราจักได้ยินกันอยู่แล้วตามตลาดทั่วไป แม้จะเป็นคีย์เวิร์ดพื้นฐานที่บรรดาพ่อค้า แม่ค้าทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังใช้ได้ดีอยู่เลยทีเดียว

เทคนิคเรียกลูกค้าเข้าร้าน

3.ส่งเสียงกันหน่อย

อย่าปล่อยให้ร้านเงียบเหงา สร้างแรงกระตุ้นให้ตัวเองบ่อยๆ ส่งเสียงเรียกลูกค้า เชิญชวนให้เข้ามาชมอย่าได้ขาด เพราะเสียงที่เปล่งออกไปก็เสมือนกับการประชาสัมพันธ์ร้าน คุณมั่นใจได้เลย ไม่ว่าใครที่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว ก็ต้องเหลือบหันมองมาเป็นแน่ เมื่อได้มองได้เห็นสินค้า ก็อาจมีสักชิ้นที่ไปเตะตาต้องใจ และอาจะแวะเข้ามาเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไปสักชิ้นสองชิ้นก็เป็นได้ แต่หากเขาไม่ซื้อก็ไม่ต้องรู้สึกเสียใจ คุณได้นำเสนอตัวเองให้เป็นที่รู้จักแล้วเขาอาจจำคุณได้ และครั้งหน้าอาจกลับมาซื้อของจากร้านคุณ

4.ยิ้มแย้ม แจ่มใส

หัวใจสำคัญของการค้าขาย คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ทำได้ง่ายดายเพียงแค่ยิ้มแย้มให้ลูกค้า พูดจาอ่อนหวาน อย่าแสดงสีหน้าหรืออาการไม่พอใจเมื่อลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าที่คุณพยายามเชียร์ขายสุดพลัง ให้คิดเสียว่าเป็นการทบทวน ฝึกฝนตัวเองให้พูดคล่องและรู้จักสินค้าของตัวเองดีขึ้น เพราะพูดทุกวันแน่นอนต้องจำได้ทุกชิ้นได้ขึ้น

5.สวมบทบาทให้เป็น

ไม่ว่าคุณจะหงุดหงิดจากเรื่องอะไร มาจากที่ไหนก็ตาม แต่พอมาถึงหน้าร้านก็คิดให้แต่เรื่องขายของ คุณต้องสวมบทบาทนางงามเข้าไว้ เพราะหากคุณนำเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงความยุ่งยากกำลังจะตามมาในไม่ช้า คุณอาจเสียโอกาสในการขายเพราะคุณมัวแต่งุ่นง่านอยู่กับแก้ปัญหาที่ติดตัวมาจากที่บ้านหรือที่อื่นๆ แทนที่จะได้มาโฟกัสกับหนทางในการทำเงินตรงหน้า

6.ลดแลก แจกแถม / โปรโมชั่น

ลองดูสิว่าที่ผ่านมาร้านคุณสามารถจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม อะไรได้บ้าง? ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรง หรือไม่ทำให้ร้านต้องขาดทุนยับเยิน ก็เจียดกำไรบางส่วนมาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายบ้าง เดือนละครั้งก็ยังดี จะเป็นช่วงต้นเดือน หรือปลายเดือนก็จะยิ่งดี เพราะเป็นช่วงที่เงินเดือนเริ่มออกกันแล้ว ลูกค้าก็จะเริ่มมองหาสินค้าในช่วงนี้กัน

7.อย่าโฟกัสที่เงิน

เอาจริงๆแล้วเราขายของก็เพื่อให้ได้ “เงิน” แต่ถ้าเรามัวแต่โฟกัสที่เงินจนมากเกินไป หลายอย่างอาจเกินความพอดี เช่น เชียร์ขายจนทำให้ลูกค้าอึดอัด, เข้าข้างตัวเองมากเกินไปเพราะอยากขายให้ได้ จนกลายเป็นโจมตีร้านอื่น เป็นต้น พยายามเป็นตัวของตัวเอง แนะนำสินค้าตามความจริง เลือกสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า สินค้าใดที่ไม่ตรงตามสเป็คที่ลูกค้าต้องการก็อย่าทึกทักขายไป เช่นลุกค้าอยากได้เสื้อขนาด L แต่ที่ร้านไม่มีหรือหมด ก็ให้บอกไปตามความจริง อย่าไปยัดเยียดไซส์อื่นให้ลูกค้าแล้วบอกว่าใส่ได้ เพราะหากลูกค้าซื้อไปแล้วเกิดใส่ไม่ได้จะหมดความเชื่อมั่นในร้านของคุณไปโดยปริยาย ควรแนะนำเป็นเสื้อผ้าแบบอื่น หรือที่ใกล้เคียงกันให้ลูกเลือกดูจะดีกว่า

เทคนิคเรียกลูกค้าเข้าร้าน

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เรานำมาเสนอ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์แด่ท่านทั้งหลายในการประกอบอาชีพค้าขาย เพื่อให้ทุกท่านมีกำลังใจ มีไฟในการทำงาน มีแรงกระตุ้นในการประกอบอาชีพต่อไป
แสดงความคิดเห็น