เทรนด์ธุรกิจปี 2020 : ธุรกิจที่น่าสนใจ ธุรกิจมาแรงปี 2563 แนวโน้มธุรกิจที่น่าจับตามอง

ธุรกิจที่น่าสนใจปี 2020 เทรนด์ธุรกิจ 2020 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า แนวโน้มธุรกิจมาแรงปี 2563 การลงทุนที่น่าจับตามองและไม่ควรพลาด โดยเราได้รวบรวมข้อมูลวิจัยการวิเคาระห์ธุรกิจจากสถาบันชั้นนำของเมืองไทย

ธุรกิจที่น่าสนใจ – ธุรกิจอาหาร

1. โปรตีนแทนเนื้อสัตว์ : โปรตีนจากพืชและนมพืชเพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ อย่าง “สาหร่ายและถั่ว” โดยกลุ่มโปรตีนจากพืชและนมพืชจะมีมูลค่าประมาณ 6,725 ล้านบาทและมีแนวโน้มขยายตัว 6.4% ตามความนิยมบริโภคอาหารโปรตีนสูงเพื่อสร้างสมดุลทางโภชนาการทดแทนเนื้อสัตว์ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ตลอดจนความต้องการในการดูแลรักษาสุขภาพ ลดความเสี่ยงของโรคที่มาจากเนื้อสัตว์

2. อาหารสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพ : กระแสความนิยมดูแลสุขภาพยังคงเติบโตต่อเนื่องในกลุ่ม Millennial กลุ่มคนอายุ 18-34 ปี และกลุ่ม Baby Boomers ที่มีอายุ 51-69 ปี โดยจะเน้นลดปริมาณน้ำตาลและไขมันลง เพิ่มโปรตีนและใยอาหารในสัดส่วนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

3. อาหารสำหรับผู้สูงอายุ : ประเทศไทย ในปี 2565 ประมาณการว่าจะมีผู้สูงวัยอายุ 70 ปี มากถึง 4.6 ล้านคน ดังนั้นความต้องการในสินค้าโภชนาการที่เหมาะสมกับวัยและสุขภาพของแต่ละคนมีมากขึ้น จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารสำหรับผู้สูงอายุและอาหารเฉพาะบุคคลขยายตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

4. อาหารท้องถิ่น : คุณค่าของความเป็นท้องถิ่นจะช่วยสร้างมูลค่าของสินค้าได้มากขึ้น เมื่อผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับสินค้าที่มาจากท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม ฯลฯ สืบเนื่องจากเทรนด์การรักสุขภาพผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มจึงมองว่าวัตถุดิบที่ได้จากแหล่งกำเนิดโดยตรงนั้นมีคุณภาพสูง ดังนั้นผู้ประกอบการหลายรายก็เริ่มหันมาใช้วัตถุดิบหลักที่มาจากธรรมชาติและแหล่งเพราะปลูกจากท้องถิ่นมากขึ้น

5. แมลงแปรรูป :  แมลงมีคุณค่าทางอาหารด้านโปรตีนสูงสามารถบริโภคแทนเนื้อสัตว์ได้ ธุรกิจแมลงที่สามารถนำมารับประทานได้ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านบาท โดยเอเชียเป็นตลาดหลักในการบริโภคและส่งออกแมลงแปรรูป มีสัดส่วนประมาณ 40% ของโลก ซึ่งอุตสาหกรรมแมลงเติบโตปีละประมาณ 20% ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่าน และประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการส่งออกแมลงไปขายทั่วโลกที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาทำฟาร์มเพาะเลี้ยง

6.อาหารออร์แกนิคแปรรูปขั้นสูง : ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ-ความงาม จะเป็นเทรนด์ในธุรกิจออร์แกนิคระยะต่อไปโดยโมเดลธุรกิจจะเน้นไปที่การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าและบริการใหม่ๆที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

7. ธุรกิจร้านอาหารริมทาง : หรือสตรีทฟู้ดมีแนวโน้มขยายตัวสะท้อนจากการคาดการณ์มูลค่าตลาดปี 2562 รวมถึงการใช้บริการสั่งและส่งสินค้าผ่านธุรกิจบริการสั่งอาหาร อาทิ FoodPanda, LineMan,Grab Food ซึ่งดำเนินธุรกิจแบบB2B2C ประกอบกับผู้บริโภคนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นและอาหารริมทางก็มักเป็นตัวเลือกแรกๆเนื่องจากราคาไม่แพงและอยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้ง่ายรวมทั้งอาหารริมทางของไทยถือเป็นเอกลักษณ์ที่ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต้องลิ้มลอง

8. ร้านอาหารประเภท fast casual : ซึ่งเป็นรูปแบบที่ผสมผสานระหว่าง fast food ซึ่งเน้นความรวดเร็วกับ casual dining ซึ่งเน้นคุณภาพ บรรยากาศร้านและเมนูมีความหลากหลายเป็นรูปแบบที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบแต่ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคไทยช่างเลือกและให้ความสำคัญกับคุณภาพและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

9.ตลาดอาหารสำหรับเด็ก : เป็นตลาดที่ผู้ประกอบการรายใหญ่อาจไม่ได้ลงมาผลิต เพราะมูลค่าตลาดรวมไม่สูง โดยจับตลาดกลุ่มผู้ปกครองที่เป็นคนชั้นกลางในเมือง ที่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารให้เด็กและสามารถยอมรับราคาต่อหน่วยที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป ที่เน้นความปลอดภัยหรือสุขภาพอนามัยเด็ก อาทิ อาหารออแกนิกส์ น้ำตาลหรือโซเดียมน้อย อาหารสำหรับเด็กที่แพ้ส่วนผสมบางชนิด

ธุรกิจที่น่าสนใจ – ธุรกิจเครื่องดื่ม

1. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ : เทรนด์การดูแลสุขภาพยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย เครื่องดื่มบำรุงสมอง เครื่องดื่มบำรุงผิวพรรณและความสวยงาม เป็นต้น

2. น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม : จากแนวโน้มของตลาดน้ำมะพร้าวทั่วโลกคาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 26.8% ในปี 2563 และมีมูลค่าสูงถึง 2.9 พันล้านเหรียญฯ โดยประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกและอเมริกาใต้ เป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดน้ำมะพร้าวทั่วโลกมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นถึง 50% ภายในปี 2020

3. น้ำดื่มสีใสแต่งกลิ่นรสชาติต่างๆ : Water Plus เครื่องดื่มสีใสๆลักษณะภายนอกเหมือนน้ำเปล่าแต่เมื่อดื่มเข้าไปจะมีรสชาติแตกต่างไปแล้วแต่ยี่ห้อ เช่น รสชานม รสมะนาวโซดา รสลูกพีช รสผลไม้รวม เป็นต้น ให้ความรู้สึกสดชื่นและไม่ทำร้ายสุขภาพ ทางเลือกสำหรับคนที่อยากลดน้ำอัดลม

4. กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล (Functional) : ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือคาร์บอเนตเป็นส่วนผสม แต่จะมีการผสมสารอาหาร เช่น วิตามิน กรดอะมิโน หรือส่วนผสมของผักและผลไม้จำพวกเส้นใยลงไป

5. กลุ่มอาหารที่ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ :  ซึ่งรู้จักกันในชื่ออาหารฟรีฟอร์ม (Free-form food) อาหารกลุ่มนี้จะไม่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว คลอเรสเตอรอล ฮอร์โมน หรืออนุมูลอิสระที่เป็นสารก่อมะเร็ง

6. กาแฟคั่วบด : ซึ่งทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ความนิยมดื่มกาแฟคั่วบดมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกลงไปพบว่าในตลาดกาแฟคั่วบดนั้น “กลุ่มกาแฟพรีเมียม” ซึ่งหมายถึงร้านกาแฟที่ใช้กรรมวิธีการชงในแบบเครื่องชงเอสเพรสโซ่แล้วนำไปผสมเป็นเมนูต่างๆ รวมถึงมีการคัดสรรเมล็ดกาแฟ ซึ่งร้านกาแฟพรีเมียมสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก ตามระดับราคา รูปแบบธุรกิจ และการตกแต่งร้าน นับเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นและน่าสนใจ

 

เทรนด์ธุรกิจ 2020 – ธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี

1. E-Commerce is global : E-Commerce เป็นการค้าที่ไร้พรมแดนอยู่แล้ว แต่ในปี 2563 จะไม่ใช่แค่ข้ามภูมิภาค แต่จะเป็นข้ามประเทศ อ้างอิงจากข้อมูลของสินค้าใน 3 Marketplace เจ้าดังในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบจำนวนสินค้าของปี 2561 ที่มีจำนวน 74 ล้านชิ้นและในปี 2562 มีจำนวนสินค้าเติบโตมากขึ้นถึง 174 ล้านชิ้นหรือมากถึง 2.4 เท่า  เมื่อเจาะลึกลงไปจะเห็นว่าเป็นสินค้าที่มาจากประเทศจีนมากถึง 77% ประกอบกับนโยบายของรัฐบาล Free Trade Area ที่จะส่งผลให้ปี 2563 การขนส่งสินค้าจากต่างประเทศจะรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

2. DTC : Direct to Consumer  :  แบรนด์สินค้าจะสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งสอดคล้องจากข้อมูลของ 3 มาร์เก็ตเพลสเจ้าดังในประเทศไทย ที่มีแบรนด์สินค้าโดยเฉลี่ยทั้งหมด 44,000 แบรนด์ และมีจำนวน Brand Official Shop ทั้งหมด 1,700 ร้านค้า หรือ 4% แสดงให้เห็นว่าจำนวนแบรนด์ที่เข้ามาเปิด Shop ในมาร์เก็ตเพลสยังคงมีจำนวนไม่มาก  คาดว่าในปี 2563 จำนวนร้านค้า Brand Official Shop และจำนวนสินค้า จะเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่าตัว ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของแบรนด์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องพึ่งช่องทางการขายแบบเดิมอีกต่อไป

3. Thailand World’s Leader in Social Commerce : ประเทศไทยจะเป็นผู้นำของตลาดโซเชียลอีคอมเมิร์ซ (จากผลการวิจัย Conversational Commerce: the next gen of E-com” by BCG (Facebook, ส.ค. 2562) เปิดเผยว่า คนไทยยอมรับว่าเคยชอปปิงผ่าน Social Commerce มากถึง 40% ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนคนชอปปิงผ่าน Social Commerce มากที่สุดอีกด้วย

4. Indoor farming : เป็นรูปแบบการเกษตรที่สามารถเพาะปลูกที่ใดก็ได้ ซึ่งช่วยลดระยะทางการขนส่งผักและผลไม้ส่งผลให้รูปแบบการขนส่งผักและผลไม้โดยตรงจากแหล่งเพาะปลูกไปสู่ร้านอาหารหรือผู้บริโภค (Farm to Table) จะได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้ ไทยอาจมีระดับการพัฒนาไปสู่การเพาะปลูกผักและผลไม้แบบ Indoor farming เพื่อขายในห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต

 

ธุรกิจมาแรงปี 2563 – ธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2565 (ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรทั้งหมด) ปัจจุบันด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตแบบครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ผู้สูงอายุที่เป็นโสดมีกำลังซื้อสูงขึ้น ส่วนผู้สูงอายุที่แต่งงานก็อยู่กันสองคนสามีภรรยามากขึ้นด้วย

ผู้สูงไทยอายุในช่วง 60-69 ปีเกือบ 50% ยังคงทำงานหลังเกษียณ ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุที่ Young at Heart ที่ใส่ใจในสุขภาพและต้องการบริการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพิ่มสูงขึ้น ผู้สูงอายุจึงกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่น่าจับตามองอีกกลุ่มหนึ่งสำหรับการเริ่มทำธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจให้บริการรับ-ส่งเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้
  • การเปิดศูนย์ธรรมชาติบำบัดสำหรับผู้สูงวัย
  • ธุรกิจยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ อย่าง ฟันปลอม รถเข็นไฟฟ้า เป็นต้น
  • ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • ธุรกิจเครื่องสำอางหรือเวชภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย (Anti-Ageing)

แนวโน้มธุรกิจ 2563 – ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม

1. กระแสเที่ยว “เมืองรอง” จะมาแรงขึ้น : การไปสำรวจจุดหมายที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่า เพื่อพยายามลดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองและช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยเทรนด์ท่องเที่ยวนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่จะมาถึง

2. ให้เทคโนโลยีคาดการณ์สิ่งที่ไม่คาดคิด : ผู้เดินทางจะใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ในกระบวนการตัดสินใจหลักๆอย่างการเลือกว่าจะไปเยือนมุมใดของโลก ผู้เดินทางไทยมากกว่าครึ่ง (64%) เน้นว่าระหว่างเดินทางจะใช้แอปพลิเคชันที่ทำให้เลือกดูและจองกิจกรรมแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

3. เที่ยวแบบสโลว์ๆจะมาแทน : โดยผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าครึ่ง (61%) วางแผนที่จะใช้รูปแแบบการเดินทางที่ช้าลงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

4. ค้นพบการท่องเที่ยวที่สัมผัสความสนุกได้แบบครบครัน : จุดหมายที่มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติโดดเด่น ซึ่งสามารถดื่มด่ำได้จากระเบียงห้องพักไปจนถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สวนสุดตื่นตา และชายหาดสำหรับเล่นน้ำคลายร้อน เพื่อผ่อนคลายหลังออกสำรวจมากทั้งวัน ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นที่ร้านอาหารท้องถิ่นรสดั้งเดิม

5. สัตว์เลี้ยงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง : เจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวไทย 52% ยอมรับว่าในปีหน้าจะเลือกจุดหมายพักร้อนโดยอิงจาก ความเป็นไปได้ในการพาสัตว์เลี้ยงไปด้วย และเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวน 52% ก็ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อพัก

6. สร้างความทรงจำดีๆด้วย“ทริปสองวัย” : จะมีปู่ย่าตายายจำนวนมากขึ้นที่พร้อมไปพักร้อนอย่างยิ่งใหญ่กับหลานๆโดยไม่ได้พาคนเป็นพ่อแม่ไปด้วย เราก็จะได้เห็นว่า “ทริปสองวัย” ซึ่งมีกิจกรรมสุดแอคทีฟมากมายให้คนสองวัยได้เข้าร่วมนั้น จะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกในปีหน้า

7. แข่งกันไปจองร้านอาหาร : 85% กล่าวว่าการได้ทานอาหารที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องสำคัญเมื่อไปทริปวันหยุด เพราะในปีหน้าผู้เดินทางจะเปลี่ยนแผนท่องเที่ยวโดยอิงจุดหมายที่เหมาะกับการไปทานอาหารเป็นหลัก โดยอยากไปดื่มด่ำรสชาติก่อนใคร และต้องการไปเยือนร้านเป็นรายแรก ๆ หรือก่อนที่จะกลายเป็นร้านดังออกสื่อต้องจองโต๊ะไปอีกร้าน

ธุรกิจที่น่าสนใจ – ธุรกิจบริการขนส่งสินค้า

ปี 2562-2564 คาดธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 1-2% ต่อปี ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของภาคการผลิต การค้า และการลงทุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้น ทำให้มีความต้องการขนส่งและกระจายสินค้าเพื่อจำหน่ายในประเทศ นอกจากนี้ธุรกิจยังได้อานิสงส์จากการค้าชายแดนที่ขยายตัวต่อเนื่องรวมถึงธุรกรรมการค้าออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมขึ้นมาก

การแข่งขันด้านราคามีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากจำนวนผู้ประกอบการที่มีจำนวนมากรายและทยอยเพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการราย ใหม่จากต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มการลงทุนในรถขนส่งและเร่งขยายเครือข่ายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เกณฑ์กำกับดูแลของทางการที่เพิ่มความเข้มงวดในการวิ่งรถบรรทุกนับเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรของธุรกิจ

บริการ Ride-hailing ขยายเข้าสู่ E-Commerce : ปีหน้าเราอาจจะได้เห็น LINE MAN Grab และ GET เข้ามาอยู่ในการซื้อสินค้ามากขึ้น ซื้อวันนี้ส่งตอนนี้ เพราะหากมองไปที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างอินโดนีเซียก็มีบริการเช่นนี้ให้เห็นอยู่มาก ซึ่งในอนาคตอาจมาพร้อมโปรโมชันมากมายที่น่าสนใจ

แนวโน้มธุรกิจที่น่าสนใจ 2020 – ธุรกิจแฟรนไชส์

โดยปัจจัยที่ยังคงสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ที่สำคัญ มีดังนี้

1.  คนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของกิจการมีเพิ่มขึ้น จากเดิมที่นิยมทำงานราชการหรือพนักงานบริษัท ก็สนใจที่จะทำอาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของกิจการมากขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบใหม่หรือทำงานไม่นานที่อยู่ในกลุ่ม GenY (อายุ 21-38 ปี ซึ่งมีรวมกันประมาณ 17.3 ล้านคน) ซึ่งงานประจำที่ทำอาจไม่ตอบโจทย์ทางด้านลักษณะงานหรืออาจไม่พึงพอใจด้านรายได้ ประกอบกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้น ทำให้เข้ามาแทนที่แรงงานคนในหลายสาขาอาชีพ ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีโอกาสในการเปลี่ยนงานไปสู่ธุรกิจแฟรนไชส์เช่นเดียวกัน

2.  ความหลากหลายของธุรกิจที่ใช้รูปแบบแฟรนไชส์ขยายกิจการ การที่เจ้าของธุรกิจสนใจเข้ามาขยายกิจการด้วยระบบแฟรนไชส์มากขึ้น ทำให้ปัจจุบัน มีแฟรนไชส์หลากหลายประเภทให้ผู้สนใจเลือก เพื่อให้ตรงกับความชอบหรือสนใจ รวมถึงเหมาะสมกับเงินทุน/ทำเล/หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้การตัดสินใจทำธุรกิจแฟรนไชส์มีทางเลือกมากขึ้น

3.  การเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่สะดวก ปัจจุบัน มีช่องทางต่างๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเภทแฟรนไชส์รูปแบบการดำเนินธุรกิจ เงินลงทุนอย่างละเอียด ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ทำให้ข้อมูลต่างๆไปถึงผู้สนใจจำนวนมาก

4.  การเข้ามาของธุรกิจแฟรนไชส์ต่างประเทศ จากมูลค่าตลาดแฟรนไชส์ที่สูงของไทย ประกอบกับความต้องการใช้ไทยเป็นฐานแฟรนไชส์ เพื่อต่อยอดการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ส่งผลให้แฟรนไชส์ต่างประเทศสนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยมากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า แฟรนไชส์ต่างประเทศจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็นร้อยละ 10 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 โดยส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีการติดต่อซื้อแฟรนไชส์ต่างประเทศเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น

5.  ภาครัฐและสถาบันการเงินให้ความสำคัญ ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐของไทย มีการจัดอบรมหลักสูตรการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีมาตรฐาน รวมถึงการจัดงานแสดงเกี่ยวกับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถาบันการเงินเองก็มีความร่วมมือกับเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ ที่ได้รับความนิยมหรือมีการคัดธุรกิจที่มีมาตรฐาน และประสบความสำเร็จแล้วเพื่ออำนวยความสะดวกในการสนับสนุนเงินกู้ให้กับผู้สนใจลงทุนธุรกิจ

ธุรกิจมาแรงปี 2563 – ธุรกิจอื่นๆ

1.“ร้านซักอบรีด” และ “ธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญ” : เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจให้กับผู้ที่สนใจจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง เนื่องจากปัจจุบัน การเติบโตของสังคมเมือง ที่ต้องแข่งขันกับเวลา คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต และการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยที่มีจำนวนมากขึ้น

2. ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าว : เช่น สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ และสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง กลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์มะพร้าว ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคกลุ่ม Millennials ซึ่งมีลักษณะการใช้ชีวิตผูกพันกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์  ดังนั้นการเลือกนำกลยุทธ์เปิดตลาดผ่านช่องทางออนไลน์

3. ชาที่มีรสชาติใหม่ๆ : ผู้บริโภคชามีความต้องการและสนใจชาที่มีรสชาติใหม่ๆ ทำให้ตลาดชาไม่เคยหยุดนิ่งในการปรับปรุงรสชาติที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ดื่มชา เน้นรสชาติที่ทำจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

4.ผลิตภัณฑ์น้ำหอมผู้ชาย : มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10.3 ของผลิตภัณฑ์เพื่อความงามผู้ชาย เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 4.9 ต่อปี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ต่อสังคมภายนอก

รวมสินค้ามาแรงขายดีปี 2563 คลิ๊ก>>

10 อันดับธุรกิจดาวเด่น – ดาวร่วงปี 2563 คลิ๊ก>>

Reference :
– Krungsri Research, Kasikorn Research, Economic Intelligence Center, Priceza, GSB Research, BangkokBanksme,

แสดงความคิดเห็น