การซื้อขายในตลาดอีคอมเมิร์ซ หรือการซื้อขายออนไลน์นั้นแม้พักหลังนี้จะดูเงียบเหงาลงไปบ้าง จากการระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ที่ทุกประเทศต่างต้องเผชิญกันทั่วโลก แต่ในทางธุรกิจอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซข้อมูลจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา เผยให้เห็นถึงข้อมูลที่ว่าแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นจะกลับมาคึกคักและมีโอกาสเติบโตได้อย่างแน่นอน
แม้จะเป็นเวลาสองปีที่ยากลำบากอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาด แต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางของสหรัฐฯ (SMB) ยังคงมองว่าเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะฟื้นตัว ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่นและความเฉลียวฉลาดของพวกเขา นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถจัดหาแหล่งซื้อขายผ่านระบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ทำให้เข้าถึงตัวเลือกซัพพลายเออร์ใหม่ๆได้รวดเร็ว
จากการศึกษาของ McKinsey ผู้บริหาร McKinsey & Company เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลกซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1926 โดยศาสตราจารย์ James O. McKinsey จากมหาวิทยาลัยชิคาโก พบว่า 86% ของการจัดหาสินค้าออนไลน์มีบทบาทที่มีอิทธิพลในการเป็นผู้นำในการฟื้นฟูธุรกิจหลังเกิดโรคระบาด เช่นเดียวกับธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดกลาง(SMB) ที่คาดว่ายอดขายและผลกำไรที่จะสูงขึ้น แม้ว่าจะมีต้นทุนด้านลอจิสติกส์หรือการขนส่งเพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นก็ตาม
และจากผลสำรวจของเว็บไซต์ Alibaba.com ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 เกี่ยวกับธุรกิจ SMB ของสหรัฐฯ พบว่า 74%ของผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว แซงหน้าผลสำรวจก่อนเกิดโรคระบาดที่มีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 62% และผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีของ PNC พบว่า ในอีกหกเดือนข้างหน้า 71% ของธุรกิจ SMB คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าผลกำไรจะเพิ่มขึ้น 58%
อ้างอิง : https://businessjournaldaily.com
การเข้าสู่โลกดิจิทัลและการเชื่อมต่อทั่วโลกนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในธุรกิจ ดังนั้นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องปรับให้เข้ากับเวลาและพิจารณาตัวเลือกที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อวางรากฐานสู่ความสำเร็จ ยังเน้นผลิตภัณฑ์และทรัพยากรที่ไม่เคยมีมาก่อนหรือไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งนี้นำไปสู่แนวคิดผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและตลาดใหม่ๆ
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ แม้ว่าจะมีเทรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ แต่บางตัวก็มาเร็วไปเร็ว และบางตัวก็ออกมาช้าไม่ทันความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องหมั่นศึกษาและทันต่อเทรนด์สินค้า แน้วโน้มความสนใจของผู้บริโภคอยู่เสมอ
เทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มสินค้าของใช้จำเป็น
“สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ประเภทยั่งยืน หมายถึง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าที่มีขายอยู่ตลอด เช่น จาน ชาม เครื่องครัว ของแต่งรถ เป็นต้น”
มีสินค้าใหม่ๆถูกเพิ่มลงในหมวดหมู่สินค้ายั่งยืนบน Alibaba.com โดยเฉลี่ยแล้วถึง 6 เท่าของหมวดหมู่อื่นๆ และเป็นหมวดหมู่ที่เติบโตเร็วที่สุดของแพลตฟอร์ม หมวดหมู่ความยั่งยืนครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่ยานพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปจนถึงผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวแต่ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เช่น หลอดจากชานอ้อย เป็นต้น แต่เราจะเห็นว่าเทรนด์สินค้านั้นจะเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก นั่นหมายความว่าผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
3 หมวดย่อย กลุ่มกลุ่มสินค้าของใช้จำเป็น
1.กลุ่มสินค้าสีเขียวบนท้องถนน
สินค้าสีเขียวบนท้องถนนรวมถึงยานพาหนะขนาดเล็ก เช่น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ใช้งานง่าย ไม่ก่อให้เกิดควันดำบนท้องถนน นอกจากนี้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน เพื่อเติมเชื้อเพลิงรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน สำนักงาน และในชุมชนเมือง
2.กลุ่มสินค้าพลังงาน/พลังงานทดแทน
ในต่างประเทศจะพบว่ามีสินค้ากังหันลมสำหรับใช้ในบ้านและแบตเตอรี่แบบพกพาวางขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่สามารถนำมาใช้แทนเชื้อเพลิงแบบเดิมหรือแหล่งพลังงานอื่นๆ การกระจายอำนาจในการผลิตของโครงข่ายไฟฟ้าและพลังงาน จะช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในชนบทสามารถแข่งขันในพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถอยู่นอกพื้นที่ให้บริการพลังงานเชื่อเพลิงต่างๆ ได้โดยใช้พลังพกพาของตนเอง
3.กลุ่มสินค้าแบบใช้ครั้งเดียว
Compostable eco-living ผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวหรือใช้แล้วทิ้ง ในอดีตมักจะไม่ถือว่าเป็นสินค้า “สีเขียว” หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะดำเนินการผลิตสินค้าแบบใช้ครั้งเดียวที่สามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์หรือย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เช่น เครื่องใช้ในครัว จาม ชาม ที่ทำมาจากชานอ้อย ซึ่งเราก็คุ้นเคยกับสินค้าประเภทนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ยังรอคอยให้มีการพัฒนาสินค้าอื่นๆออกมาเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีน้อยประเภทอยู่
นอกจากนี้การผสมผสานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ยังสามารถช่วยประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย เนื่องจากต้นทุนการจัดส่งในต่างประเทศที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์จำนวนมากจึงได้ออกแบบให้พับเก็บได้และง่ายต่อการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก