เปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปด้วยงบ 3,000 ทำได้หรือไม่?

เปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปด้วยงบ 3,000 ทำได้หรือไม่?

เปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป หนึ่งช่องทางทำเงินสร้างอาชีพง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยากมากนัก อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่สำคัญคือลงทุนน้อย  กำไรสูง  สินค้ามีอายุการขายยาวนาน เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนธุรกิจอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ขายอุปกรณ์ไอที และอื่นๆ เมื่อสินค้ากิ๊ฟช็อปมีต้นทุนต่อหน่วยไม่ถึงสิบบาท ทำให้การเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจ และสำหรับงบลงทุน 3,000 บาท เป็นต้นทุนที่หลายคนยังสงสัยอยู่ว่าสามารถเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อฟได้หรือไม่ ครั้งนี้จึงเป็นการนำเสนอแนวทางการเปิดร้านกิ๊ฟช็อปแบบพอสังเขป

ต้นทุนเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป มีอะไรบ้าง?

1.สินค้า

สินค้าสำหรับเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป สามารถกำหนดเองได้ ว่าจะรับมาปริมาณมากน้อยเท่าไร โดยยกตัวอย่างสินค้า ได้แก่ ที่คาดผม ที่รัดผม กิ๊ฟติดผม ยางรัดผม ต่างหู แหวน กระเป๋าสตางค์ ฯลฯ

2.โครงเหล็กสำหรับตั้งร้าน/แผงราวเหล็ก

ชุดโครงเหล็กสำหรับเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป ไม่จำเป็นต้องใช้ชุดใหญ่มากนัก สักประมาณ 70 x 180 เซนติเมตร ลึก 80 เซนติเมตร สูง 1 เมตรก็สามารถตั้งร้านได้ ต้นทุนชุดโครงเหล็กอยู่ที่ประมาณ 600 บาท

3.แคร่ไม้ไผ่

ในส่วนของแคร่ไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับรองวางสินค้าเพื่อขาย เอาไว้ปูบนโครงเหล็ก หากเลือกขนาดที่เหมาะสมกับการเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป ส่วนมากจะมีขายรวมอยู่ในชุดโครงเหล็กเลย กล่าวคือเช่นโครงเล็กชุดละ 600 บาท ก็มักได้แคร่ไม้ไผ่พร้อมมาด้วย แต่ถ้าไม่ได้หรือต้องซื้อแยก เริ่มต้นที่ 180 บาท

4.ผ้าปู

ผ้าสำหรับการเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป ควรเลือกผ้าปูสวยๆ เช่น ผ้ากำมะหยี่ ผ้าขนกุหลาบ ผ้าขนเฟอร์ ฯลฯ ราคาขายตามเมตร ตกเมตรละ 200 บาทโดยประมาณ

5.ตะแกรง

ตะแกรงสำหรับแขวนที่คาดผม แขวนกิ๊ฟติดผม หรือสินค้าอื่นๆ ที่สามารถแขวนได้ ราคาอยู่ที่แผ่นละ 135 บาท หากซื้อเป็นคู่ก็อยู่ที่ 270 บาท

6.ของประดับตกแต่ง

ของประดับพวกชั้นวางของเล็กๆ หรืออื่นๆ ในร้านขายกิ๊ฟช็อป ไม่ควรเกิน 500 บาท  ในส่วนของต้นทุนนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้

งบ 3,000 บาท ได้อะไรบ้าง?

สำหรับงบ 3,000 บาท ที่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ในการเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป ถ้าหากดูจากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า ในส่วนของอุปกรณ์เพื่อเปิดร้าน นั้นอยู่ในงบประมาณที่ 1,500 บาท เหลืออีก 1,500 บาท สามารถนำไปซื้อต้นทุนในส่วนของสินค้าสำหรับขายได้ แจกแจงพอสังเขปดังนี้

• กิ๊ฟติดผม 1 โหล 50 บาท จำนวน 3 โหล เท่ากับ 150 บาท
• ยางรัดผมสวยๆ 1 โหล 120 บาท จำนวน 3 โหล 360 บาท
• ยางดำรัดผม 1 กิโลกรัม 150 บาท
• ที่คาดผม 1 โหล 150 บาท จำนวน 3 โหล 450 บาท
• ตุ๊กตาพวงกุญแจ 1 โหล 150 บาท
• กำไลข้อมือ 1 โหล 100 บาท
• แหวน 1 กล่อง 100 บาท

หากได้สินค้าทั้งหมดนี้มาจะอยู่ที่ 1,460 บาทโดยประมาณ หรือในช่วงใกล้ 1,500 บาทพอดี ก็เท่ากับว่าต้นทุน 3,000 บาทสามารถเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้นทุนส่วนนี้จะต้องไม่รวมไปถึงค่าเช่าพื้นที่ จึงจะสามารถเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปภายในงบเท่านี้ได้ ตามที่ได้แจกแจงไป

หมายเหตุ : ผู้ขายสามารถเลือกซื้อสินค้ามาขายได้มากกว่าหรือน้อยกว่าตัวอย่างเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบของผู้ขายเอง ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการคำนวณให้เห็นราคาต้นทุนเบื้องต้น

วิธีการเลือกสินค้า

สำหรับการเลือกสินค้าเพื่อเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อป หากเน้นต้นทุนต่ำ ควรเลือกสินค้าทั่วไป ไม่ต้องโดดเด่นมากนัก เป็นสินค้ายอดนิยมในท้องตลาด ไม่ต้องเน้นคุณภาพสูงเท่าไร เน้นเลือกซื้อยกโหลได้ปริมาณมากๆ เช่น กิ๊ฟติดผมวินเทจ กิ๊ฟสีๆ ยางรัดผมสปริง ยางรัดผมลวดลายทั่วไป ที่คาดผมผ้าลายน่ารักซื้อยกโหลได้ เป็นต้น

ช่องทางการขาย

ช่องทางที่เหมาะสมสำหรับการเปิดขายกิ๊ฟช็อป ได้แก่ ตลาดนัด หน้าโรงเรียน และถนนคนเดินแหล่งวัยรุ่นทั่วไป เจาะกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ  โดยการกำหนดราคาจำหน่ายจะบวกกำไรเพิ่มประมาณ 150% – 400%  เช่นพวงกุญแจ 5 บาท สามารถจำหน่ายได้ 15 – 20 บาท เป็นต้น  ซึ่งการจัดหน้าร้านควรให้ลูกค้าสามารถหยิบจับ ทดสอบสินค้าได้สะดวก

จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสรุปได้ว่าต้นทุน 3,000 บาทสามารถเปิดร้านขายกิ๊ฟช็อปได้ ซึ่งจะได้อุปกรณ์สำหรับเปิดร้านสำหรับแผงลอย แบกับดิน  รวมทั้งซื้อสินค้ากิ๊ฟช็อปได้หลายชนิด สำหรับนำมาขาย เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเองได้