ชุดกีฬาหรือชุดบอลที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยความที่สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด ราคาถูก จึงทำให้ชุดบอลได้รับความนิยมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เรียกได้ว่าเข้าถึงได้ทุกคน นับว่าสินค้าเจาะกลุ่ม Mass market ได้เป็นอย่างดี
สำหรับคนที่กำลังสนใจอยากจะลงทุนหรือกำลังพิจารณาเปิดร้านขายชุดกีฬาหรือชุดบอล เป็นธุรกิจเล็กๆของตัวเองหรือทำเป็นอาชีพเสริม เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการลงทุนมาให้ท่านผู้ประกอบการหรือผู้ลงทุนเริ่มต้นได้พิจารณากันดังต่อไปนี้
คำแนะนำก่อนการลงทุน
สำหรับข้อมูลการลงทุนที่จะนำเสนอนี้ อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่าเป็นการลงทุนเปิดร้านขายขนาดเล็กๆ งบลงทุน 3,000 – 5,000 บาท ดังนั้นรูปแบบการลงทุนจะมีภาพรวมดังนี้
- ชุดกีฬาหรือชุดบอล จะเป็นชุดบอลแฟชั่น ไม่เป็นสินค้าลิขสิทธิ์
- ราคาขายชุด 100 – 299 บาท
- ชุดกีฬาหรือชุดบอลสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
- ขายตามตลนาดนัด แผงลอยหรือย่านชุมชน
งบการลงทุนขายชุดกีฬา
วัตถุดิบเบื้องต้น
- ชุดบอลเด็ก ราคาส่งประมาณ 50 – 60 บาท/ชุด
- ชุดบอลผู้ใหญ่ ราคาส่งประมาณ 60 – 80 บาท/ชุด (ราคาขึ้นอยู่กับขนาดหากชุดมีขนาดใหญ่ราคาส่งอาจเพิ่มขึ้น 10 – 20 บาท)
อุปกรณ์เบื้องต้น
- ไม้แหขวนเสื้อ ราคาประมาณ 20 บาท/โหล
- ราวแขวนผ้า ราคาประมาณ 150 – 200 บาท/ราว (ราวเหล็กธรรมดา)
- หุ่นโชว์เสื้อผ้า ราคาประมาณ 80 – 199 บาท/ตัว (พลาสติกครึ่งตัวธรรมดา)
ค่าเช่าพื้นที่ขาย
- วันละ 40 – 60 บาท (สำหรับตลาดนัดในต่างจังหวัด)
- วันละ 100 – 300 บาท (สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล)
หมายเหตุ : ค่าเช่าแต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกัน ราคาดังกล่าวเป็นเพียงราคาเฉลี่ยเบื้องต้นเท่านั้น
ค่าไฟฟ้า
- บางทำเลขายของจะเหมารวมค่าไฟในค่าเช่าพื้นที่ขายไปแล้ว แต่บางที่อาจคิดค่าไฟแยก ค่าไฟประมาณ 20 ิ- 50 บาท/วัน (ขึ้นอยู่กับสถานที่)
แหล่งขายส่งชุดกีฬา/ชุดบอล
- ตลาดโรงเกลือ แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดโรงเกลือจะซบเซาไปบ้างทั้งด้วยสภาพเศรษฐกิจและการเข้ามาของตลาดออนไลน์ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโรงเกลือก็ยังคงเป็นตลาดขายส่งสินค้าราคาถูกที่ยังคงได้รับความนิยมของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะชุดกีฬายังคงมีขายส่งรายใหญ่ดำเนินกิจการอยู่อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็เริ่มมีการปรับตัวมาขายส่งออนไลน์ด้วย
- ตลาดสำเพ็ง แนะนำให้ไปช่วงกลางวัน จะมีร้านขายส่งชุดกีฬาเปิดขายอยู่หลายร้านและมีราคาถูก
- ร้านขายส่งออนไลน์ ขายส่งรายใหญ่ก็หันมาขายออนไลน์กันมากขึ้นอย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้น ซึ่งบางรายก็มาจากตลาดขายส่งใหญ่ๆ แต่มาเพิ่มช่องทางขายยออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ทั้งในเว็บไซต์ , Facebook Page, Instagram, Line เป็นต้น หรือท่านสามารถดูร้านขายส่งได้จากลิ้งนี้ >> https://www.smeleader.com/รวมร้านขายส่งชุดกีฬา
- Market place มาร์เก็ตเพลส พื้นที่ขายของออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้จำนวนมาก เช่น Shopee, Lazada, JD เป็นต้น จะมีบรรดาร้านขายส่งไปลงขายสินค้า คุณสามารถเข้าไปหาชุดกีฬาราคาส่งได้ที่นั่นเช่นกัน
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ซื้อชุดราคาส่งจากร้านออนไลน์ จะประหยัดต้นทุนไปได้มาก ทั้งค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างเดินทาง เป็นต้น เริ่มต้นอาจลองสั่งจากหลายๆร้านดูก่อนเพื่อเปรียบเทียบ ราคา คุณภาพ จนคุณได้ร้านที่ตรงตามความต้องการแล้วจึงค่อยสั่งจากร้านเดียวทีละมากๆ ช่วงต้นอาจต้องยอมเสี่ยงลองผิดลองถูกก่อน เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงในระยะยาว
- เลือกชุดที่มีขนาดฟรีไซส์ จะทำให้ลดภาระสินค้าเหลือในสต็อกได้ เพราะบางไซส์อาจขายไม่ดี
- เพิ่มช่องทางขายออนไลน์ ลูกค้าที่เคยซื้อแล้วจะอยากจะซื้อเพิ่มจะได้ติดต่อตามช่องทางการขายออนไลน์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line เป็นต้น รวมทั้งคุณยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มออนไลน์ได้อีกด้วย
- จัดโปรโมชั่นบ้าง เพื่อกระตุ้นยอกขาย เช่น แอดไลน์ลดเพิ่ม 20% หรือลดราคาสินค้าที่ขายไม่ค่อยดี ไซส์ที่ขายไม่ออก เป็นต้น นอกจากจะล้างสินค้าค้างสต็อกแล้วยังเพิ่มกลุ่มลูกค้าไปในตัว
เทคนิคจัดหน้าร้าน
- เลือกชุดที่สวยที่สุดของร้าน ชุดมาใหม่ หรือสินค้าขายดี แบบละสีมาแขวนไว้หน้าสุดของร้าน เพื่อกระตุ้นความหน้าสนใจ และเมื่อลูกค้าอยากดูสีอื่นจะได้ไม่ต้องไปรื้อมาจากกองให้วุ่นวาย
- รีดชุดที่โชว์ในหุ่น – ชุดแขวนโชว์ ส่วนมากแล้วจะมีประมาณ 5 – 6 ชุดที่โชว์ คุณอาจรีดชุดเตรียมมาจากที่บ้านแล้วค่อยนำมาแขวนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจคุณอาจจะรีดมากกว่านี้ก็ได้ ชุดที่รีดแล้วจะดูดี สวยงามน่าซื้อ ไม่ยับยู่ยี่ ดูไม่เรียบร้อย
- วางป้ายราคาให้ชัดเจน การวางป้ายราคาจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจากราคาที่พวกเขาพึงพอใจและเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องคอยถามราคาซ้ำบ่อยๆ