ถังหูลู่ ของว่างทานเล่นที่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้นกระแสแรงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าบรรดาเด็กๆ นักเรียน วัยรุ่น ต่างก็พากันกรูเข้าหาร้านขายถังหูลู่ จะด้วยเพราะความนิยมหรือความชอบในรสชาติความอร่อย เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสินค้าที่กำลังฮิตและหากใครที่กำลังอยากจะขายสินค้าตามกระแสต้องรีบกระโดดคว้าโอกาสในการสร้างเงิน สร้างกำไร ก่อนที่จะแสความนิยมรับประทานถังหูลู่นั้นจะซาลงไปเสียก่อน
ถังหูลู่ คืออะไร ?
ถังหูหลู หรือ ถังหูลู่ คำว่าถังในภาษาจีนหมายถึงน้ำตาล ส่วนคำว่าหูลู่หมายถึงน้ำเต้า
เป็นขนมขบเคี้ยวหรือของหวานของคนจีน เรามักจะเห็นในหนังจีนย้อนยุค ที่พระเอกมักจะซื้อให้นางเอกรับประทานอยู่บ่อยๆ ลักษณะจะเป็นผลไม้เคลือบน้ำตาลแล้วนำมาเสียบไม้ เสียบต่อๆกันเหมือนทรงน้ำเต้า จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกดังกล่าว
อยากขายถังหูลู่ ต้องทำอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจอยากมีอาชีพ หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังมองหารายได้เสริม ทำขายหลังเลิกเรียนหรือทำขายในช่วงของวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เราได้รวบรวมเอารายละเอียดวิธีการเริ่มต้นอาชีพขายถังหูลู่เบื้องต้นมาให้ท่านได้นำไปประกอบการลงทุนเปิดร้านเล็กๆของท่านดังต่อไปนี้
วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้เบื้องต้น
- ผลไม้ตามใจชอบ เช่น องุ่น ลูกพลับ พุทรา สตรอว์เบอร์รี เป็นต้น
- น้ำตาลทราย
- น้ำเปล่า
- ไม้เสียบ
วิธีทำถังหูลู่ สูตรที่ 1
อุปกรณ์และวัตถุดิบ
- สตรอว์เบอร์รี่สด 1 กล่อง
- องุ่นเขียวไซน์มัสแคท 1 พวง
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- น้ำเปล่า 100 กรัม
- แบะแซ 60 กรัม
- ไม้เสียบปลายแหลม
วิธีทำ
- เตรียมผลไม้ โดยเด็ดองุ่นออกจากพวงองุ่น ส่วนสตรอว์เบอร์รี่ ให้เด็ดกลีบเลี้ยงสีเขียว เหลือแต่จุกด้านบนไว้
- นำผลไม้ทั้ง 2 ชนิดไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วซับให้แห้ง จากนั้น เสียบไม้ปลายแหลมเตรียมไว้
- ทำน้ำตาลเคลือบ โดยใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วย น้ำตาลทราย จากนั้น เปิดไฟแรง ต้มให้น้ำเดือด
- พอน้ำเดือดดีแล้ว ให้ใส่แบะแซลงไป ไม่ต้องคน จากนั้น ต้มไปเรื่อย ๆ ให้น้ำเดือด อยู่ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส (ควร
- ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ เพื่อไม่ให้ต้มนานเกินไป จนน้ำเชื่อมกลายเป็นคาราเมล)
- เมื่อร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ เช็กว่าน้ำตาลเคลือบได้ที่หรือยัง โดยการหยดน้ำตาลเคลือบลงบนน้ำเย็นจัด ถ้าหนดแล้ว จับตัว
- เป็นก้อนผลึก แสดงว่าใช้ได้ ให้ตักน้ำตาลเคลือบ เคลือบองุ่นและสตรอว์เบอร์รี่ ให้ทั่ว เป็นอันเสร็จ
ขอขอบคุณสูตรจาก SGE x เชฟเจิน
วิธีทำถังหูลู่ สูตรที่ 2
ส่วนผสม สตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาล
- น้ำตาลทรายขาว 250 g
- น้ำสะอาด 80 g
- เลม่อน 1-2 ชิ้น (ใช้มะนาวเขียวได้)
- สตรอเบอร์รี่สด
- (เลม่อนหรือมะนาว ช่วยลดการตกตะกอนของน้ำตาล)
วิธีทำ สตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาล
- นำสตรอเบอรี่สดล้างและเช็ดให้แห้ง จากนั้นนำมาเสียบไม้ทิ้งไว้
- ใส่น้ำตาลทรายขาวและน้ำลงในหม้อ ตั้งเตาเปิดไฟกลาง นำเลม่อนหั่นบาง 1-2 ชิ้นใส่ลงไป ระหว่างที่ต้มไม่ต้องกวน ให้ใช้
- วิธีวนก้นหม้อนิดหน่อยพอ
- เมื่อน้ำเชื่อมเริ่มเป็นสีน้ำตาล ให้นำเลม่อนออก แล้วต้มต่อจนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ได้สีที่ชอบแล้วจึงปิดไฟ
- นำสตรอเบอรี่เสียบไม้ที่เตรียมไว้ลงจุ่มน้ำเชื่อม ทำต่อไปเรื่อยๆ จนหมด (หากน้ำเชื่อมแข็งตัวให้เปิดไฟอุ่นน้ำตาลจะละลายจนเป็นน้ำเชื่อมอีกครั้ง)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB : Pimmy ชวนกินของอร่อย
Youtube : PIMMY TASTY
คำแนะนำเพิ่มเติม
ความสดของผลไม้ เนื่องจากผลไม้นั้นช้ำ หรือเสียได้ง่าย ยิ่งอยู่ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงความสดก็จะยิ่งน้อยลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการเก็บรักษาผลไม้ให้คงความสดอยู่ได้นาน นอกจากการแช่ในตู้เย็นแล้ว อาจจะเพิ่มด้วยการเก็บใส่กล่องสูญญากาศ ถุงกล่องสูญญากาศ หรือถุงเก็บความเย็นสำหรับผักและผลไม้ก็ได้เช่นกัน เพื่อรักษาอุณภูมิและยืดระยะรักษาความสดของผลไม้ให้นานขึ้น
อย่าให้น้ำตาลเป็นก้อน หรือตกผลึกจะดูไม่สวยไม่น่ารับประทาน การที่น้ำตาลเกาะตัวกันเป็นก้อนเวลาเคลือบ สาเหตุมาจากการที่เคี้ยวน้ำตาลยังไม่ได้ที่ หรือน้ำตาลยังไม่ผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันจนกลายเป็นน้ำเชื่อมนั่นเอง วิธีการแก้ปัญหาก็คือให้รอจนน้ำตาลละลายได้ที่และอย่ารีบนำไปเคลือบผลไม้ทันทีรอให้น้ำเชื่อมเซ็ทตัวสักครู่ หรือเติมคอร์นไซรัป หรือ กลูโคสไซรัป (แบะแซ) ลงไปด้วย จะช่วยชะลอน้ำเชื่อม ให้ตกผลึกได้ช้าลง
เพิ่มความหลากหลาย นอกจากการเคลือบด้วยน้ำเชื่อมแบบธรรมดาแล้ว ก็อาจจะเพิ่มความน่าสนใจหรือความแปลกใหม่ลงไปด้วย เช่น เคลือบช็อคโกแลต เคลือบรสสตรอว์เบอรี่ เป็นต้น เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าและสร้างโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น
กะปริมาณให้พอเหมาะ ดูให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายด้วย หากเลือกเป็นกลุ่มเด็กๆ วัยรุ่น ปริมาณ 5 ลูกต่อไม้เป็นปริมาณที่กำลังดี ทั้งนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าผลไม้ที่นำมาทำถังหูลู่นั้นมีขนาดใหญ่หรือไม่ หากลูกใหญ่ก็อาจจะลดปริมาณลง เพราะเด็กๆอาจจะรับประทานได้ไม่หมด