แมลงทอดที่เรามักพบเห็นตามรถเข็นขายในตลาดนัด เมนูประหลาดที่สร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน เพราะเป็นที่ถูกปากและถูกอกถูกใจ หลายต่อหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ถึงขั้นที่ชาวต่างชาติหากได้แวะเวียนมาเมืองไทย ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองแมลงทอดของบ้านเรา
แม้รูปลักษณ์จะไม่สวยสดงดงามคนที่กลัวแมลงอาจไม่ถูกใจสิ่งนี้ แต่หากได้ลองชิมแล้วรสชาติหอมมันกลมกล่อมอร่อยจนหยุดกินไม่ได้เลยทีเดียว นับว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยหรือเมนูทานเล่นที่สามารถทำกำไรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ดีทีเดียว
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจอยากจะขายแมลงทอด สร้างรายได้เสริมหลังเลิกงานหรือวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และกำลังมองหาข้อมูลเพื่อพิจารณาลงทุน เราได้รวบรวมเอาข้อมูลและรายละเอียดขั้นตอนการเริ่มต้นอาชีพขายแมลงทอดเบื้องต้น เหมาะสำหรับเปิดขายตามตลาดนัดหรือย่านชุมชนมาฝากกัน ดังต่อไป
งบการลงทุนขายแมลงทอด
สำหรับงบประมาณในการลงทุนเปิดร้านขายแมลงทอดนั้น จะขอให้ข้อมูลการลงทุนสำหรับการเปิดร้านขายขนาดเล็ก แบบรถเข็นหรือคีออส ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้ตามความต้องการ
- ค่าวัตถุดิบ เช่น แมลงชนิดต่างๆ เกลือ น้ำมันสำหรับทอด เป็นต้น (ประมาณ 100 – 150 บาท/กิโลกรัม)
- ค่าอุปกรณ์ เช่น รถเข็น ถาด กระทะ ตะหลิว แก๊สหุงต้ม กล่องกระดาษ ถุงพลาสติก เป็นต้น (ประมาณ 3,000 – 3,500 บาท) *ใช้โต๊ะแทนรถเข็นได้
- ค่าเช่าพื้นที่ (ประมาณ 150 – 300 บาท)
- เงินหมุนเวียน (ประมาณ 500 – 1,000 บาท)
อุปกรณ์จำเป็นเบื้องต้น
- รถเข็น ราคาประมาณ 2,500 – 3,000 บาท
- ถาดใส่แมลงทอด ราคาประมาณ 50 – 80 บาท/ถาด
- กล่องกระดาษ ราคาประมาณ 100 บาท/แพค ( 100 ชิ้น)
- ถุงพลาสติก ราคาประมาณ 20 – 30 บาท/แพค
หมายเหตุ : กรณีผู้ประกอบการรับแมลงทอดสำเร็จรูปมาขาย ก็จะสามารถประหยัดต้นทุนในส่วนของอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทอด เช่น แก๊สหุงต้ม น้ำมัน กระทะ ตะหลิว เป็นต้น แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าแหล่งที่รับแมลงทอดมาขายต่อนั้นกระบวนการผลิตสดใหม่ สะอาด ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ ปัจจุบันมีร้านขายส่งแมลง และฟาร์มสำหรับเลี้ยงแมลงไว้ทอดขายโดยเฉพาะ ซึ่งทำการเพาะเลี้ยงแมลงแทบทุกชนิด และราคาไม่แพง ผู้ประกอบการต้องพิจารณาดูให้ถี่ถ้วนว่าสะอาด ได้มาตรฐาน (บางร้านขายส่งเช่นแม๊กโคร มีแมลงแช่งแข็งจำหน่าย)
- หากไม่ใช้รถเข็นสามารถใช้โต๊ะขนาดกลางแทนได้ อาจจะลำบากในการขนย้ายอยู่บ้างแต่ก็ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ ราคาประมาณ 500 บาท
- ศึกษาทำเลที่ตั้ง ก่อนลงมือขายจริงต้องพิจารณราทำเลขายของให้ดีเสียก่อน เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น วัยทำงานและชาวต่างชาติ แมลงทอดจึงเหมาะสำหรับขายตามย่านชุมชน เช่น ตลาดนัด ถนนคนเดิน เป็นต้น
ตัวอย่างเมนูยอดนิยม
- จิ้งหรีดทอด
- ตั๊กแตนทอด
- หนอนไหมทอด
- ด้วงทอด
- หนอนไม้ไฝ่ทอด
- รถด่วนทอด
กลยุทธ์การขาย
- กลิ่นหอมเรียกลูกค้า แมลงทอดที่เพิ่งทอดสดออกจากกระทะจะมีกลิ่นหอม ยั่วน้ำลายเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากทอดขายเองกลิ่นหอมจะช่วยเรียกลูกค้าได้มากกว่าการรับแมลงทอดสำเร็จรูปมาขายต่อ
- เพิ่มรสชาติใหม่ ในยุคปัจจุบันมีผงปรุงรสสำเร็จรูป เช่น ผงเพิ่มรสบาบีคิว รสชีส รสปาปิกา เป็นต้น สามารถนำมาเขย่าผสมกับแมลงทอดเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยผงปรุงรสสามารถซื้อได้จากร้านขายวัตถุดิบเช่น โลตัส แม๊กโคร
- ตกแต่งร้านให้สวยงาม ลดความน่ากลัวของรูปลักษณ์ภายนอกของแมลงชนิดต่างๆ บางคนอยากลองทานแต่พอเห็นหน้าตาของแมลงก็เกิดกลัวขึ้นมา อาจใช้รูปแมลงตัวการ์ตูนน่ารักๆตกแต่ง หรือติดรูปแมลงเพื่อบอกให้ทราบชนิดแมลงที่ขายวันนี้ เป็นต้น
- ตั้งราคาขายที่เหมาะสม ไม่ว่าจะขายเป็นกล่อง หรือชั่งกิโลขาย ก็ควรตั้งราคาให้เหมาะสม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ควรขายที่ 20 – 30 บาท
- รักษาความสะอาด หาฝาปิดหรือพลาสสติกใสคลุมให้มิดชิดป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรกหรือแมลงวันตกลงไปในอาหาร
- เน้นความสดใหม่ แมลงทอดจะอร่อยต้องกรอบ ไม่เหม็นหืนน้ำมัน ดังนั้นต้องทอดสดใหม่วันต่อวัน กะปริมาณให้พอดีจะได้ไม่เหลือ
- หากขายไม่หมด ให้ลดราคา หรือซื้อ 1 แถม 1 เพราะรสชาติจะไม่อร่อยและกรอบเหมือนเดิมหากปล่อยทิ้งข้ามวัน ขายได้กำไรน้อยลงยังดีกว่าขายของไม่มีคุณภาพให้ลูกค้า