เริ่มต้น “ขายโตเกียว” ทำอย่างไรบ้าง?

ขนมโตกียวที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และมักจะพบเจอตามตลาดนัดหรือขายอยู่บริเวณหน้าโรงเรียน มหาวิทยาลัย นับเป็นขนมทานเล่นที่ได้รับความนิยมชมชอบจากบรรดาเด็กๆ นักเรียน วันรุ่น ไม่เว้นไม่กระทั่งผู้ใหญ่เองก็ชอบรับประทาน เพราะมีรสหอมหวาน กลมกล่อม จึงเรียกได้ว่าเป็นขนมทานเล่นของทุกเพศ ทุกวัยจริงๆ

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่อาชีพขายขนมโตเกียวเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายต่อหลายคนเลือกนำมาลงทุน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สำหรับท่านที่กำลังสนใจอยากจะลงทุนเปิดร้านเล็กๆขายขนมโตเกียวในตลาดนัด หน้าโรงเรียนหรือในย่านชุมชน เราได้รวบรวมข้อมูลลงทุนเบื้องต้นมาให้ท่านดังต่อไปนี้

งบการลงทุน

  • วัตถุดิบต่างๆ เช่น แป้งสาลี ไข่ไก่ เกลือ หมูสับ ไส้กรอก นมสด ฯลฯ ใช้งบไม่เกิน 1,000 บาท
  • เตาโตเกียว ราคาประมาณ 1,800 – 2,000 บาท
  • รถเข็น ราคาประมาณ 2,000 – 2,500 บาท (อาจต้องทำมาเจาะช่องให้พอดีสำหรับเตาขนม)
  • แก๊สหุงต้ม ขนาดเล็ก 7 กิโลกรัม ซื้อใหม่ราคาประมาณ 1,900 บาท
  • อุปกณ์อื่นๆ เช่น ถุงพลาสติก กระดาษรอง เกรียงแซะขนม งบประมาณ 200 บาท

ค่าเช่าพื้นที่

  • วันละ 40 – 60 บาท (สำหรับตลาดนัดในต่างจังหวัด)
  • วันละ 100 – 300 บาท (สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล)

สูตรขายโตเกียว หาได้จากที่ไหน?

คุณสามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์แนะนำสูตรทำขนมต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งแนะนำสูตรขนมและวิดีโอสอนทำขนมโตเกียว หรือท่านสามารถดูสูตรขนมโตเกียวได้จากลิ้งนี้ >>  https://www.smeleader.com/สูตรโตเกียว

ทำขนมโตเกียวไม่เป็น ทำยังไงดี?

  • เรียนด้วยตัวเอง โดยดูจากคลิปสอนทำขนมโตเกียวบนบล็อกสอนทำขนมหรือเว็บไซต์ YouTube ซึ่งจะมีสอนทำขนมโตเกียวให้ฟรีๆทุกขั้นตอน มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ดูคลิปสอนได้ตลอด
  • เข้าคอร์สเรียน หากคุณมีงบประมาณในการเข้าคอร์สเรียนทำขนมและอยากชอบเรียนแบบมีครูสอนตัวต่อตัวมากกว่า ท่านสามารถติดต่อสมัครเข้าเรียนยังสถาบันสอนทำขนมต่างๆได้

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • เลือกทำเลที่เหมาะสม เน้นกลุ่มลูกค้า เด็กนักเรียน นักศึกษาและพนักงานออฟฟิศ หากเป็นตลาดควรเลือกตลาดที่มีผู้คนนิยมไปจำนวนมากจะได้กลุ่มลูกค้าที่หลายหลาย หากตลาดนั้นไม่มีการจัดโซนขาย สามารถเลือกเลือกโซนเองได้ ให้เลือกบริเวฯใกล้ทางเข้า-ออก เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาหรือเดินออกไปจะได้เห็นเราได้อย่างชัดเจน โอกาสขายได้ก็จะมากขึ้น
  • ทำสดใหม่ กลิ่นหอมๆของโตเกียวที่โชยไปตามลมช่วยเรียกความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดีี รสชาติของขนมที่ทำสดใหม่นั้นหอมหวาน น่ารับประทาน ที่สำคัญขนมโตเกียวนั้นต้องทานตอนร้อนๆถึงจะอร่อย
  • แก้ปัญหาคิวยาว บางครั้งหากเน้นทำสดใหม่ อาจทำให้ลูกค้าต้องรอนานดังนั้นต้องเตรียมรับมือแก้ปัญหากับเรื่องนี้ไว้ เช่น ให้ลูกค้าออเดอร์ล่วงหน้า จดใส่กระดาษหรือให้บัครคิวเอาไว้ แล้วให้ลูกค้าไปเดินเล่น ช็อปปิ้งได้ตามสะดวกไม่ต้องมายืนรอให้เหนื่อยและเสียเวลา
  • เพิ่มช่องทางชำระเงิน ปัจจุบันกำลังเข้าสู่โลกสังคมไร้เงินสด ดังนั้นหากมีช่องทางชำระเงินออนไลน์ให้ลูกค้า จะเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องหสเงินทอนให้ยุ่งยาก คุณอาจวางป้ายคิวอาร์โค้ด หมายเลขบัญชีหรือหมายเลขพร้อมเพย์ให้หน้าร้านให้ลูกค้าสังเกตุเห็นได้ง่าย เรียกว่าเป็นการนำร้านโตเกียวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • เพิ่มช่องทางติดต่อ เช่น Line, Facebook เป็นต้น เพื่อกระจายข่าวสารว่าแต่ละวันไปขายที่ใดบ้าง วันไหนหยุดบ้าง ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้ายุคดิจิทัล
  • รสชาติต้องให้ความสำคัญ นอกจากจะรองรับและตอบโจทบ์ในด้านต่างๆแล้วทั้งช่องทางชำระเงิน ช่องทางติดต่อ ฯลฯ แต่รสชาติคือสิ่งที่ต้องไม่หยุดพัฒนา รสมือจะต้องอร่อยเหมือนเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิม หมั่นสอบถามลูกค้าถึงความพึงพอใจ ส่วนใดที่ต้องปรับปรุงก็นำกลับมาพัฒนา
แสดงความคิดเห็น