หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าธุรกิจต้นไม้นั้นมีมายาวนานกว่าหลายปีซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์ นั่นก็เพราะว่ายังมีความต้องการอยู่ตลอดเวลารวมไปถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวกับโลกร้อน ซึ่งทุกประเทศต่างให้การสนับสนุนในการปลูกต้นไม้กันอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ประโยชน์ที่หลากหลายของการปลูกต้นไม้ เช่น ปลูกไว้สำหรับตกแต่งบ้านเรือนให้เกิดความร่มรื่น ปลูกเพื่อใช้เป็นของประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มความสดใสให้กับบ้าน หรือปลูกไว้สำหรับรับประทานจำพวกพืชผักสวนครัวเป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงในธุรกิจประเภทนี้ หากผู้ที่คิดจะเริ่มต้นลงทุนใหม่นั้นจะต้องมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจที่ดีเสียก่อนที่จะเริ่มลงทุนจริง จึงจะสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างราบรื่น
ก่อนที่เราจะเริ่มสู่ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจต้นไม้ เราจะต้องมาทำความรู้จักประเภทของต้นไม้ก่อนว่ามีกี่ชนิดที่สามารถทำเงินกันได้ ประเภทที่นิยมกันโดยที่สามารถทำเงินได้อยู่ตลอดเวลาเราจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัวและต้นไม้เฉพาะเจาะจงสายพันธุ์ ต้นไม้ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นต้นไม้ยอดนิยม ซึ่งสามารถที่จะขายได้อยู่ตลอดเวลาเพราะเป็นที่ต้องการของลูกค้าทุกยุคทุกสมัย ไม้ดอกไม้ประดับนั้นสามารถตอบโจทย์ของคนที่รักการแต่งสวนด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก ซึ่งสามารถทำให้บ้านเรือนหรือสถานที่ที่ตกแต่งร่มรื่นเป็นต้นไม้ชนิดที่ขายดีเป็นลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ พืชผักสวนครัวก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่มีความต้องการของคนในทุกๆ กลุ่ม เพราะว่าสามารถปลูกได้ง่ายและสามารถเชื่อมั่นได้ว่าพืชผักที่เราปลูกรับประทานเองไม่มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายด้วยนั่นเอง ส่วนต้นไม้เฉพาะสายพันธุ์ประเภทนี้จะเป็นต้นไม้ที่เจาะจงลงไปเฉพาะกลุ่มซึ่งรวมไปถึงไม้ป่าที่หายาก
การจะทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าขายต้นไม้ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจก็คือแผนการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ต่างๆ ที่เหมาะสมจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะประกอบไปด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน
เริ่มต้นจากขนาดและเงินลงทุนในการทำธุรกิจต้นไม้ ถ้าเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจชนิดนี้เป็นครั้งแรก ควรจะเริ่มจากขนาดการลงทุนขนาดเล็กก่อนเพราะว่าธุรกิจต้นไม้นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายกว่าที่ใครหลายคนคิด รวมไปถึงสายพันธุ์มากมายที่เราสามารถนำมาขายได้ หากเราเริ่มต้นด้วยขนาดเล็กจะสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ง่ายอีกด้วย
ปัจจัยที่สอง คือ ชนิดและประเภทของต้นไม้ที่เราจะลงทุนด้วย ปัจจัยนี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะว่าหากเราต้องการเริ่มธุรกิจเราควรที่จะเลือกประเภทของต้นไม้ให้เหมาะสมกับความต้องการทั้งของผู้ดำเนินธุรกิจและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะรับต้นกล้าเพื่อมาขายหรือเพาะพันธุ์ สามารถเลือกซื้อเป็นเมล็ดพันธุ์มาเพาะขายเองหรือแม้กระทั่งรับต้นไม้ที่โตแล้วมาขายต่อ จะเห็นได้ว่าเราสามารถที่จะเลือกต้นไม้ได้หลายชนิดหลายประเภทมาดำเนินธุรกิจได้ แต่หากเป็นการเริ่มต้นแล้วนั้น เราจะแนะนำให้เน้นไปที่การรับต้นกล้ามาขายก่อนเพราะเป็นการประหยัดทั้งต้นทุนในการเพาะปลูกและราคาซื้อขายก็ไม่สูงมากนักซึ่งจะทำให้สามารถขายออกได้ง่ายนั่นเอง
ปัจจัยต่อไป คือ การเลือกทำเลที่ตั้งของร้านขายต้นไม้รวมไปถึงการจัดหน้าร้าน สำหรับผู้ที่ต้องการจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ทำเลที่ตั้งของร้านนั้นถือว่ามีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการจะเปิดร้านซึ่งหลักในการเลือกทำเลที่ตั้งนั้นไม่ยากเพียงแค่เราต้องคำนึงถึง 3 เรื่องหลักๆ ด้วยกันคือ สถานที่ตรงนั้นจะต้องสะดวกในการสรรจรไปมาของลูกค้ารวมไปถึงมีจำนวนรถที่ขับผ่านเส้นทางนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าหากพื้นที่บริเวณนั้นมีรถผ่านไปมายิ่งเยอะเท่าไหร่โอกาสที่ลูกค้าใหม่ๆ ก็จะมีเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน ต่อไปคือจะต้องมีที่จอดรถให้ลูกค้าเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะว่าหากร้านเราอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดีมากแต่ไม่สามารถจอดรถได้ก็จะไม่มีใครแวะเข้ามาร้านเราเพราะการซื้อต้นไม้นั้นจะต้องมียานพาหนะมารับอยู่แล้ว สุดท้ายก็คือทำเลที่ตั้งของร้านควรจะอยู่ใกล้ๆ กับร้านขายต้นไม้อื่นด้วยเพราะว่าหากถ้าร้านของเราตั้งอยู่ร้านเดียวโดยที่ไม่มีร้านอื่นๆ เลยอาจจะสามารถทำให้ลูกค้าไม่หยุดแวะเพราะคิดว่าเป็นร้านเดียวเล็กๆ อาจจะไม่มีต้นไม้ให้เลือกตามที่ต้องการนั่นเอง การจัดตกแต่งร้านก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าสนใจที่จะเข้ามาเลือกซื้อต้นไม้ของเรา ซึ่งการจัดร้านที่ดีควรที่จะคำนึงถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดไม่รก ซึ่งหน้าร้านก็ควรจะประกอบไปด้วยไม้ดอกที่มีสีสดใสและควรจัดร้านออกมาให้ดูอุดมสมบูรณ์เพื่อให้ดูว่ามีความหลากหลายของต้นไม้ให้เลือก ส่วนหลังร้านแนะนำให้วางสินค้าจำพวกต้นไม้เฉพาะเจาะจงสายพันธุ์ไป
ปัจจัยที่สี่ คือ ช่องทางในการทำเงินและการตลาด ช่องทางในการทำเงินสำหรับธุรกิจประเภทนี้ก็จะมุ่งเน้นไปที่การหากลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้าประเภทค้าส่งและลูกค้าประเภทค้าปลีก ลูกค้าประเภทค้าส่งเราอาจจะต้องออกไปตระเวนหาร้านขายต้นไม้ด้วยตัวเองเพื่อที่จะเสนอขายต้นไม้ในราคาส่ง กำไรจากกลุ่มลูกค้าประเภทนี้นั้นอาจจะไม่ได้มากนักแต่เราจะมุ่งเน้นไปเพื่อกำไรในระยะยาวที่มีความมั่งคงนั่นเอง ส่วนประเภทของลูกค้าปลีกนั้นก็คือการขายหน้าร้านหรือตามสื่อออนไลน์ ซึ่งเราสามารถทำกำไรได้มากกับกลุ่มลูกค้าประเภทนี้แต่ก็จะต้องมีการทำการตลาดที่ดีเพื่อให้ลูกค้าสนใจสั่งซื้อสินค้าของเรา ซึ่งการทำการตลาดที่เหมาะสมและประหยัดที่สุดคงหนีไม่พ้นสื่อออนไลน์ต่างๆ นั่นเอง เพราะสื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากมายในเวลานี้ การจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้าก็ถือว่าสำคัญสำหรับประชาสัมพันธ์ร้านของเราอีกด้วย
ปัจจัยสุดท้าย ก็คือความรู้และความสามารถของผู้ดำเนินธุรกิจขายต้นไม้ ซึ่งควรที่จะต้องมีความรู้ในเรื่องต้นไม้พอสมควร สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากเพราะต้นไม้มีมากมายหลายสายพันธุ์และรวมไปถึงการดูแลเพาะปลูกที่ต่างกัน ซึ่งถ้าหากผู้ที่ทำธุรกิจประเภทนี้ไม่มีความเชี่ยวชาญก็ยากที่จะประสบความสำเร็จเพราะเราจะต้องเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำกับลูกค้า หากลูกค้าเกิดข้อสงสัยจะไม่สามารถตอบได้ อาทิเช่น ต้นไม่ชนิดนี้ควรปลูกในสภาพอากาศแบบไหน ไม่ควรปลูกไว้ที่ใดเป็นต้น
โอกาสในการทำธุรกิจต้นไม้ที่มีการแข่งขันสูงยังคงสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกเรื่อยๆ หากมีการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ในตัวสินค้า เช่น ต้นไม้กระป๋อง ต้นไม้มงคล ต้นไม้เล็กเป็นต้น ต้นไม้กระป๋องถือว่าเป็นการปลูกต้นไม้แนวคิดใหม่ซึ่งมีมานานในต่างประเทศ วัตถุประสงค์ก็คือการปลูกต้นไม้โดยใช้วัสดุ Recycle มาทำเป็นกระถางต้นไม้ ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองเรื่อง คือได้ต้นไม้บวกกับลดปริมาณขยะ แต่ก็ได้มีคนนำเจ้าต้นไม้กระป๋องนี้มาประยุกต์เกิดเป็นที่นิยมกันในเวลานี้ โดยการใช้กระป๋องที่มีลวดลายที่สวยงานและสามารถปลูกได้ง่ายเพียงแค่ฉีกซองเมล็ดพันธุ์และหยอดลงไปในกระถาง รดน้ำสม่ำเสมอก็จะได้ต้นไม้กระป๋องขึ้นมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องไปหากระถาง ดินหรือปุ๋ยนั่นเอง ไม้มงคลก็ถือว่าเป็นที่นิยมเหมือนกันในเวลานี้เพราะในสังคมไทยทุกวันนี้เชื่อว่าหากเรามีการนำสิ่งมงคลเข้ามาไว้ในบ้านเยอะก็จะมีแต่เรื่องดีดีเข้ามาในชีวิต มันก็เลยเป็นโอกาสที่เราจะนำต้นไม้ที่มีชื่อมงคลมาวางขาย ต้นไม้สายพันธุ์เล็กก็ถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้กันเพราะด้วยที่ขนาดของต้นไม่เล็กไม่ใหญ่สามารถปลูกได้ในทุกสถานที่แม้กระทั่งในคอนโดหรือหอพัก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ของคนรักต้นไม้ที่มีพื้นที่จำกัดได้ดีนั่นเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นแนวคิดขั้นตอนการลงทุนทำธุรกิจต้นไม้ที่ยังคงสามารถทำเงินได้ในทุกสถานการณ์รวมไปถึงสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงในทุกวันนี้ โดยหากว่าเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจต้นไม้นี้ เราจะต้องมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจรวมไปถึงการกำหนดกลยุทธ์ที่ดีและรัดกุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดและเงินทุนในการทำธุรกิจ หากเป็นช่วงเริ่มต้นควรที่จะเริ่มต้นด้วยขนาดที่เล็ก ชนิดและประเภทของต้นไม้ที่เราจะจะเริ่มลงทุนว่าควรจะเริ่มเป็นลักษณะแบบไหน ทำเลที่ตั้งและการจัดร้านขายต้นไม้ก็มีความสำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อของที่ร้าน ช่องทางทำเงินการตลาดและกลุ่มเป้าหมายก็มีความสำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่น รวมไปถึงความรู้และความชำนาญด้านต้นไม้ของผู้ลงทุนธุรกิจ จึงจะทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืนและสามารถเอาชนะคู่แข่งได้โดยไม่ยาก