แบงค์อยากรู้อะไรในแผนธุรกิจของคุณ

การขอเงินสนับสนุนเพื่อประกอบธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่น่าเสียหายอะไร และก็เป็นเรื่องที่ควรทำถ้าคุณมีความคิดที่ดีแต่ขาดเงินทุนในการเริ่มต้น แต่การจะได้มาซึ่งเงินทุนนั้นสิ่งสำคัญก็คือ คุณจะต้องมีแผนธุรกิจที่ดีด้วย แผนธุรกิจที่ดีไม่เพียงแต่จะเป็นเป้าหมายให้ผู้ประกอบการได้ทำการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ นั่นหมายถึงการมีองค์กรที่เข้มแข็งและมีผลประกอบการที่ดี แต่สิ่งสำคัญของแผนธุรกิจไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ในอีกบทบาทหนึ่งของแผนธุรกิจถือว่าเป็นเอกสารชิ้นสำคัญที่สถาบันการเงินจะใช้พิจารณาประกอบการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ธุรกิจด้วย การเขียนแผนธุรกิจจึงเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผู้ประกอบการควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะถ้าคุณอยากได้ทุนคุณต้องเขียนแผนธุรกิจให้โดนใจธนาคารให้ได้ และคุณจะเขียนแผนธุรกิจให้โดนใจได้ คุณก็ต้องเข้าใจก่อนว่าธนาคารต้องการที่จะรู้อะไรบ้างในแผนธุรกิจของคุณ ซึ่งเราจะนำคุณไปเรียนรู้กันในครั้งนี้

1.สินค้าที่ขายหรือบริการที่จะทำ
นี่คือหัวข้อหลักที่คุณจะต้องระบุลงไปในแผนธุรกิจของคุณ แต่ก่อนที่จะระบุลงไปในแผนธุรกิจ คุณจะต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจเสียก่อน ถ้าพิจารณาแล้วว่าเป็นไปได้ก็เริ่มเขียนแผนธุรกิจ ซึ่งตรงจุดนี้คุณจะต้องมีความชัดเจนที่สุด ในธุรกิจของคุณอาจมีสินค้าหลากหลายหรือมีบริการหลายประเภท แต่คุณจะต้องรู้ว่าสินค้าใดเป็นสินค้าหลัก บริการใดเป็นบริการหลัก จัดประเภทของสินค้าและบริการคุณให้ชัดเจน ธนาคารจะแผนธุรกิจนั้นๆ ว่ามีความเป็นไปได้ในการสร้างผลกำไรมากน้อยเพียงใด ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันรวมทั้งดูความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในขณะนั้นด้วย ธนาคารจะมีการเปรียบเทียบกับธุรกิจที่อยู่ในประเภทเดียวกันและดูสถานการณ์ความเป็นไปของธุรกิจที่คุณจะทำ คุณจึงต้องมีความชัดเจนในธุรกิจของคุณว่าคุณจะขายอะไร หรือจะบริการเรื่องอะไร และเขียนระบุออกมาเป็นแผนธุรกิจให้ตรงที่สุด

2.กลุ่มลูกค้า
เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณจะขายอะไรหรือบริการอะไร ต่อมาคุณก็จะต้องคิดว่าสินค้าของคุณจะขายให้ใคร คนกลุ่มใดเป็นเป้าหมาย บริการของคุณเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มช่วงอายุใด เขียนออกมาให้แคบที่สุดและตรงเป้าที่สุด อย่าเขียนประมาณการแบบกว้างๆ เพราะธนาคารอยากจะรู้ว่าคุณรู้จริงในธุรกิจของคุณรู้ไม่ คุณเข้าใจความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมายดีเพียงไร เมื่อประเมินแล้วธนาคารก็จะพิจารราอีกครั้งว่าธุรกิจของคุณมีความเป็นได้ทางการตลาดพอที่จะแข่งขันกับธุรกิจใกล้เคียงได้หรือไม่ คุณจึงต้องมีความชัดเจนในกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณด้วย

3.จุดแข็งและจุดอ่อนของกิจการที่จะทำ
คุณจะต้องรู้จักวิเคราะห์ตนเอง วิเคราะห์ธุรกิจของคุณว่ามีจุดแข็งตรงไหน มีอะไรที่เหนือกว่าหรือแตกต่างจากคู่แข่ง และต้องรู้ด้วยว่าจุดอ่อนใดบ้างที่จะทำให้ธุรกิจเข้าสู่ความเสี่ยง และเมื่อพบความเสี่ยงแล้วคุณจะบริหารความเสี่ยงของคุณอย่างไร ข้อมูลทั้งหมดนี้คุณจะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ และอย่าลืมที่จะเขียนลงไปในแผนธุรกิจของคุณด้วย เพราะธนาคารต้องการวิเคราะห์สถานการณ์ของธุรกิจคุณตั้งแต่ดีที่สุดไปจนถึงแย่ที่สุด และเขาจะประเมินว่าแผนการที่คุณวางไว้รับมือกับความเสี่ยงนั้นจะมีโอกาสประคองธุรกิจคุณให้เดินไปได้หรือไม่ ธนาคารจะมองจุดอ่อนของธุรกิจคุณว่า มีมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากคุณจะแก้ไขหรือจุดอ่อนของธุรกิจคุณอย่างไร

4.วิธีการ
เมื่อคุณวางเป้าหมายของธุรกิจคุณแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการก็คือ คุณต้องรู้วิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นด้วย วิธีการมีมากมายแต่คุณจะต้องรู้จักที่จะจัดระบบให้เป็นสัดเป็นส่วน วางแผนตั้งแต่การจัดระบบบริษัท แบ่งงานของเป็นกี่ส่วนกี่แผนก แบ่งหน้าที่ว่าใครทำอะไร ที่ไหนอย่างไร มีการจัดอัตราเงินเดือนอย่างไร ถ้าจะผลิตสินค้าจะต้องมีขั้นตอนอย่างไร ทั้งหมดนี้ธนาคารต้องการเห็นในแผนธุรกิจของคุณเพื่อที่จะวิเคราะห์ได้ว่าระบบความคิดและระบบการทำงานของคุณมีโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จหรือไม่นั่นเอง

5.กลยุทธ์ที่จะใช้
กลยุทธ์เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าที่คุณตั้งไว้ได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายเช่นกัน แต่วิธีการคือการเดินเทียบเคียงไปกับคู่แข่ง ส่วนกลยุทธ์เป็นวิธีการที่จะเอาชนะคู่แข่ง กลยุทธ์นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าวิธีการ ดังนั้นคุณต้องรู้จักเลือกใช้ความซับซ้อนนั้นให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ ไม่ว่ากลยุทธ์ด้านการตลาด กลยุทธ์ด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทุกสิ่งจะสะท้อนความเป็นคุณออกมา ธนาคารต้องการที่จะรู้กลยุทธ์ที่คุณใช้ เพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่ากลยุทธ์ที่คุณใช้สอดรับกับวิธีการที่คุณปฏิบัติงานหรือไม่ เช่น หากคุณมีสินค้าสักชิ้นที่ต้องการลงแข่งขันสู่ตลาด คุณเลือกวิธีการเปิดตัวในตลาดด้วยการโฆษณาและกลยุทธ์ที่คุณใช้คือ การโฆษณาในเวลา 30 วินาทีผ่านทางทีวี

แต่เมื่อมาพิจารณางบประมาณเงินทุนที่คุณมีแล้ว เงินทุนไม่พอให้คุณทำเช่นนั้น แบบนี้คือคุณเลือกวิธีการดี แต่ไม่เข้าใจข้อจำกัดตัวเองจึงเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้ไม่ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนล่ะคุณต้องการให้คนรู้จักสินค้าของคุณ วิธีการโฆษณาเป็นทางเลือกที่ดี แต่กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ให้การโฆษณาของคุณได้รับความสนใจและสามารถกระตุ้นยอดขายได้ควรมีความแตกต่างออกไปอย่างเช่น ใช้สื่อสังคมออนไลน์ อาจจะถ่ายทำโฆษณากับแบบง่ายๆ แล้วเผยแพร่ลงบน YouTube ก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าใช้งบประมาณน้อยกว่าการลงโฆษณาในทีวีแน่นอน และสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้เช่นกัน เพียงแค่เลือกกลยุทธ์ให้ดีแผนธุรกิจคุณก็จะมีความน่าสนใจขึ้นมาทันที

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือ สิ่งที่ธนาคารต้องการจะเห็นในแผนธุรกิจของคุณ ซึ่งแผนธุรกิจที่คุณทำขึ้นมาจะสะท้อนให้ธนาคารเห็นว่าอุปนิสัยของผู้กู้เป็นอย่างไร มีความสามารถในการคืนเงินให้กับธนาคารแค่ไหน แล้วธนาคารควรจะอนุมัติเต็มวงเงินหรือไม่ ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจต้องมีการหาความรู้และทำความเข้าใจในหลักการที่ถูกต้องของการทำแผนธุรกิจให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน อย่าลงมือทำโดยยังไม่มีความรู้จริงในสิ่งที่จะลงมือทำเป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแผนธุรกิจจะถูกใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนของธุรกิจด้วยแล้ว ยิ่งต้องให้ความสำคัญต้องรู้หลักการที่ถูกต้องเป็นเบื้องต้นเสียก่อน รู้ว่าจะทำอะไร จะเขียนแผนอย่างไร ธนาคารต้องการอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องมาจากการศึกษาทำการบ้านมาหลายๆ ครั้ง เพราะหากขาดความรู้ที่ถูกต้องตามหลักการแล้ว

แผนธุรกิจที่เกิดขึ้นจะเกิดความผิดพลาดได้โดยง่าย โดยที่ผู้ประกอบการธุรกิจเองมักเองมักไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แล้วยังเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วอีกด้วย และอีกประการหนึ่งถ้าคุณต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างธนาคาร คุณจะต้องรู้ว่าธนาคารให้ความสำคัญอีกประการก็คือ หลักประกันของคุณ ซึ่งผู้ประกอบการในบ้านเรามีมากมายที่ไม่ผ่านตรงจุดนี้ การจะเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างธนาคารคุณจึงต้องมีการเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้านจริงๆ

จึงสรุปได้ว่าหาคุณต้องการทำธุรกิจ คุณต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมในตอนนั้นก่อนเป็นอันดับแรก ดูว่าสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างไร การเมืองสงบหรือไม่ เศรษฐกิจโลกเป็นอย่างไร โอกาสหรือภัยคุกคามทางธุรกิจในช่วงนั้นมีการลุกลามหรือไม่ จากนั้นค่อยลงมือวางแผนธุรกิจ เขียนแผนธุรกิจขึ้นมา และอย่าลืมศึกษาปัจจัยขององค์ประกอบที่มีผลต่อการพิจารณาของสถาบันการเงินด้วย เมื่อคุณรู้ว่าธนาคารต้องการอะไรและคุณมีข้อมูลในความเป็นจริงที่ตรงกับความต้องการของธนาคารคุณก็จะมีโอกาสได้เงินกู้ สิ่งสำคัญอย่าลืมตระหนักว่า เรื่องของอนาคตเป็นเรื่องที่เราไม่อาจคาดเดาได้ เมื่อถึงเวลาที่นำแผนธุรกิจมาใช้ในการปฏิบัติจริง จะพบว่าผลการปฏิบัติอาจไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังหรือเขียนไว้ในแผน หรืออาจเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝันไว้ โดยที่เราอาจหาต้นตอสาเหตุของประเด็นปัญหาความผิดพลาดเหล่านั้นไม่พบ ซึ่งอาจจะนำธุรกิจของเราไปสู่ภาวะเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้นทันที ดังนั้นเราจะต้องดำเนินทุกอย่างไปอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด เพื่อความปลอดภัยของธุรกิจเรา

แสดงความคิดเห็น