การแบ่งหุ้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อน เพราะจะส่งผลต่อความเป็นเจ้าของ อำนาจตัดสินใจ และผลตอบแทนในอนาคต ดังนั้นจึงควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการแบ่งหุ้น
ในการแบ่งหุ้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- การลงเงิน เป็นการวัดความมีส่วนร่วมด้านการเงินของผู้ถือหุ้น หากผู้ถือหุ้นรายใดลงทุนเงินมากกว่า ก็ควรได้รับหุ้นในสัดส่วนมากกว่าตามจำนวนเงินลงทุน
- การลงแรง เป็นการวัดความมีส่วนร่วมด้านแรงงานของผู้ถือหุ้น หากผู้ถือหุ้นรายใดทำงานหนักกว่า ก็ควรได้รับหุ้นในสัดส่วนมากกว่าตามจำนวนชั่วโมงการทำงาน
- ประสบการณ์และความรู้ เป็นการวัดความเชี่ยวชาญและทักษะของผู้ถือหุ้น หากผู้ถือหุ้นรายใดมีประสบการณ์และความรู้มากกว่า ก็ควรได้รับหุ้นในสัดส่วนมากกว่าตามความสามารถเหล่านั้น
- ความสำคัญของบทบาท เป็นการวัดความสำคัญของบทบาทของผู้ถือหุ้น หากผู้ถือหุ้นรายใดมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ ก็ควรได้รับหุ้นในสัดส่วนมากกว่าตามบทบาทเหล่านั้น
วิธีแบ่งหุ้นตามการลงเงินและการลงแรง
โดยทั่วไปแล้ว ในการแบ่งหุ้นสำหรับการลงเงินและการลงแรง มักใช้วิธีผสมผสานระหว่างทั้งสองปัจจัย ดังนี้
- วิธีหารเฉลี่ย เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เป็นการหารจำนวนหุ้นทั้งหมดโดยจำนวนเงินลงทุนและจำนวนชั่วโมงการทำงานของแต่ละคน
- วิธีใช้เกณฑ์อื่นๆ เป็นการเลือกใช้เกณฑ์อื่นๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น ประสบการณ์และความรู้ ความสำคัญของบทบาท เป็นต้น
ตัวอย่างการแบ่งหุ้น
สมมติว่า สมชายและสมหญิงต้องการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟด้วยกัน โดยสมชายลงทุนเงิน 100,000 บาท และสมหญิงลงทุนเงิน 50,000 บาท โดยสมชายทำงานในร้านกาแฟ 10 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนสมหญิงทำงานในร้านกาแฟ 5 ชั่วโมงต่อวัน
วิธีหารเฉลี่ย
จำนวนหุ้นทั้งหมด = 100
หุ้นของสมชาย = (100,000 / 100,000 + 50,000) x 100 = 66.67%
หุ้นของสมหญิง = (50,000 / 100,000 + 50,000) x 100 = 33.33%
วิธีใช้เกณฑ์อื่นๆ
หากพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ประสบการณ์และความรู้ สมชายมีทักษะด้านการทำกาแฟและการบริหารจัดการร้านกาแฟมากกว่าสมหญิง จึงอาจได้รับหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าสมชาย ตัวอย่างเช่น สมชายอาจได้รับหุ้น 75% และสมหญิงได้รับหุ้น 25%
ข้อควรระวังในการแบ่งหุ้น
ในการแบ่งหุ้น ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ควรมีการตกลงกันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นแต่ละคน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งในอนาคต
สรุป
การแบ่งหุ้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ควรมีการตกลงกันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นแต่ละคน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งในอนาคต