แฟรนไชส์ลูกชิ้น “ลูกชิ้นจัง” การันตีประสบการณ์ขายส่งลูกชิ้นมากว่า 20 ปี

“ลูกชิ้น” อาหารทานเล่นยอดฮิต และส่วนประกอบสำคัญของก๋วยเตี๋ยว ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมมาอย่างยาวนาน ทั้งยังครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้เป็นวงกว้าง ทำให้ลูกชิ้นได้รับการตอบรับที่ดี เป็นผลให้ธุรกิจลูกชิ้นเกิดขึ้นย่างแพร่หลาย ทั้งขายปลีกขายส่ง จนกระทั่งแฟรนไชส์ที่กำลังมาแรงไม่แพ้รูปแบบอื่น จุดประกายความคิดให้พ่อค้าขายส่งลูกชิ้นบางรายเกิดความสนใจ และขยายแผนธุรกิจมาจับตลาดแฟรนไชส์ในที่สุด ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ลูก- ชิ้น- จัง”

คุณ “เจตุบัญชา อำรุงจิตชัย” เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังเล่าว่า เดิมทีที่บ้านประกอบธุรกิจผลิตลูกชิ้นเพื่อขายส่งมาเป็นเวลากว่า 20 ปีที่มหาชัย โดยกลุ่มลูกค้าจะมีร้านลูกชิ้นปลาทอดและร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างย่านเยาวราช และตลาดวังหลัง เป็นต้น เรื่องรสชาติแทบไม่ต้องพูดถึง การันตีได้จากร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังที่ให้ความไว้วางใจสั่งลูกชิ้นจากเจ้านี้ไปขายมาตลอด ถือเป็นชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน ทางคุณเจตุบัญชาจึงเชื่อมั่นในการขยายแผนธุรกิจครั้งนี้ ว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

เหตุผลที่ต่อยอดธุรกิจขายส่งลูกชิ้นของครอบครัวมาเป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้น แทนที่จะขายปลีกเองเสียเลย ซึ่งจะสามารถขายตัดราคาเจ้าอื่นได้ด้วย เมื่อเป็นผู้ผลิตเอง ถือเป็นอีกข้อได้เปรียบที่น่าสนใจ แต่ถ้าหากทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าต้องกลายมาเป็นคู่แข่งในตลาดกับลูกค้าของตัวเองที่เติบโตมาพร้อมๆ กันอย่างยาวนาน จึงไม่เลือกทางนั้น และตัดสินใจขายแฟรนไชส์ลูกชิ้นแทน โดยจุดประสงค์หลักของแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังคือป้อนวัตถุดิบลูกชิ้นปลากรายส่งให้กับแฟรนไชส์ซีของตน และมีการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ เพื่อไม่ให้ไปแข่งขันกับลูกค้าของตัวเอง โดยในธุรกิจขายส่งที่มีอยู่จะไม่ได้มีการตั้งชื่อแบรนด์

จุดเด่นของธุรกิจแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังคือเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของรสชาติ ที่ไม่เป็นสองรองใคร เพราะมีสัดส่วนของเนื้อปลากรายถึง 60% เนื้อปลาอื่นๆ อีก 20- 30% และมีส่วนผสมของแป้งเพียง 10- 20% เท่านั้น บวกกับสูตรลับในการปรุงที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังหลายๆ เจ้าให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด ทั้งยังได้การรองรับมาตรฐานจาก GMP, ISO และ อย. มาการันตีอีกด้วย ส่วนกำลังในการผลิตก็แข็งแกร่งที่สามารถผลิตได้ถึงวันละ 1,000 กิโลกรัม นับเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ในด้านคู่แข่งเชื่อว่าอยู่เหนือว่าลูกชิ้นหลายๆ เจ้า เพราะน้อยรายนักที่จะใช้เนื้อปลากราย 100% มาผลิตลูกชิ้น อีกทั้งพวกลูกชิ้นที่ติดป้ายหน้าร้านไว้ว่าลูกชิ้นปลาสูตรเยาวราช แท้แล้วก็ต้องรับมาจากมหาชัยอีกที ฉะนั้นในเรื่องของรสชาติ แฟรนไชส์ลูกชิ้นจังจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านการตลาดตอนนี้คือตระเวนออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งมี Facebook อีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้า ส่วนในความสำเร็จตอนนี้อยู่ที่จำนวนสาขากว่า 500 สาขา

ในส่วนของกำไรทางแฟรนไชส์เซอร์ได้ชี้แจงว่า โดยเฉลี่ยใน 1 กิโลกรัม แฟรนไชส์ซีจะมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย (ค่าเช่าที่, ค่าพนักงาน และอื่นๆ) ประมาณ 45% ทั้งนี้คุณเจตุบัญชายังเตรียมขยายแผนธุรกิจออกไปอีก คือจะมีการผลิตลูกชิ้นจังในรูปแบบบรรจุซอง วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่อไป ในราคาซองละ 28 บาท บรรจุ 150 กรัม

รายละเอียดแฟรนไชส์ลูกชิ้นจัง
– มีทั้งหมด 4 รูปแบบ
– ราคาแตกต่างกันในแต่ละรูปแบบ คือ 15,900 บาท, 17,500 บาท, 28,400 บาท และ 29,900 บาท
– รูปแบบร้านค้าเป็นคีออส
– มีการอบรมก่อนการขายจริง โดยจะจัดอบรมการทอด และวิธีเก็บรักษาวัตถุดิบ
– เงื่อนไขของแฟรนไชส์ลูกชิ้นจัง คือต้องซื้อลูกชิ้นปลากราย และน้ำจิ้มจากส่วนกลางเท่านั้น ในราคาส่ง ลูกชิ้น กิโลกรัมละ 55 บาท สั่งอย่างต่ำ 2 วันต่อหนึ่งครั้ง ส่วนน้ำจิ้มขายส่งในราคา 35 บาทต่อกิโลกรัม
– กำหนดราคาขายปลีกของแฟรนไชส์ซีไว้ที่ 20 บาทต่อ 7 ลูก

ข้อมูลติดต่อแฟรนไชส์ลูกชิ้นจัง
ที่อยู่ : 90 ซอยพุทธมณฑลสาย 1 36 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170
โทรศัพท์ : 02-884-3213 ,081-913-1032,086-331-3997
โทรสาร : 02-884-3963
Email : lookchinjung@gmail.com
Facebook : ลูก-ชิ้น-จัง