แฟรนไชส์ “คาเฟ่ ดิโอโร่”(D’ Oro) ธุรกิจกาแฟน่าลงทุน

แฟรนไชส์ “คาเฟ่ ดิโอโร่”(D’ Oro) ธุรกิจกาแฟน่าลงทุน

“ดิโอโร่” (D’ Oro) ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่หลายต่อคนโปรดปราน ชื่นชอบ กว่า 12 ปีที่ “ดิโอโร่” (D’ Oro) ดำเนินธุรกิจอยู่บนเส้นทางสายธุรกิจนี้ จากเริ่มต้นกันตั้งแต่ปลูกเมล็ดกาแฟ คั่วเมล็ดกาแฟ ไปจนถึงขายเมล็ดกาแฟ เรียกว่าทำเองทุกขั้นตอน จึงไม่แปลกเลยที่ “ดิโอโร่” (D’ Oro) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เพราะจากรสชาติกาแฟที่อร่อยเข้มกลมกล่อมแล้ว การดูแลเอาใจใส่ยังพิถีพิถัน จนมัดใจลูกค้าได้สำเร็จนั่นเอง นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมาร่วมธุรกิจแฟรนไชส์อีกด้วย

ร้านดิโอโร่มีสาขารวม 75 แห่ง เปิดโดยบริษัทเอง 73 แห่ง และร้านแฟรนไชส์ต้นแบบ 2 แห่ง บริษัทเริ่มต้นมาจากการดำเนินธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร โดยใส่ใจตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจากแหล่งผลิต เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ได้คุณภาพและส่งเข้ามายังโรงงานคั่วเมล็ดกาแฟของบริษัทที่ทันสมัย เป็นผลผลิตที่ได้มาตราฐานเทียบเท่ากับต่างประเทศโดยที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาระบบแฟรนไชส์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมนเรื่องคุณภาพมาตรฐานทีจะต้องมีคุณภาพเหมือนกันทุกสาขา โดยนำระบบไอทีมาตรวจสอบและดูแลทุกๆ ด้านผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่จะออนไลน์ตลอดเวลา เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแฟรนไชซอร์ และแฟรนไชส์ซีไว้ด้วยกัน ทั้งการสั่งวัตถุดิบ สต็อกสินค้า ยอดขาย ประวัติสมาชิก เป็นต้น ทำให้ทุกสาขามีมาตรฐานเดียวกันทุกแห่ง

 

สำหรับรูปแบบแฟรนไชส์ เปิดเป็นรูปแบบ “ร้าน” เท่านั้น โดยมีพื้นที่ตั้งแต่ 16 – 100 ตารางเมตร ซึ่งผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1-2.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 3.5 แสนบาท อายุสัญญา 5 ปี นอกจากนั้น เป็นค่าตกแต่งร้าน ระบบไอที และค่าอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น หลังเปิดร้านมีการเรียกเก็บค่าสิทธิ (Royalty) 4% ของยอดขาย/เดือน และค่าการตลาด 2% ของยอดขาย/เดือน

สำหรับการคัดกรองผู้ประกอบการที่จะมาร่วมธุรกิจนั้น นอกจากในเรื่องของเงินทุนและทำเลขายแล้ว ยังให้ความสนใจในเรื่องของทัศนคติอีกด้วย ในเรื่องของการมองโอกาสเติบโตในธุรกิจ การเข้าใจในเรื่องของต้นทุนและรูปแบบธุรกิจ เป็นต้น

 

เงื่อนไขสำหรับแฟรนไชส์
กำหนดให้แฟรนไชส์ซีต้องรับวัตถุดิบหลัก เช่น กาแฟ ชา โกโก้ ไซรัป แก้วกาแฟ และเบเกอรี่จากบริษัท หรือร้านค้าที่บริษัทอนุมัติเท่านั้น โดยกำไรที่ผู้ลงทุนจะได้รับ หักเฉพาะค่าวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 50% ของยอดขาย ส่วนกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ประมาณ 15-35% ของยอดขาย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของแต่ละสาขา ซึ่งจากผลกำไรดังกล่าว หากขายได้วันละประมาณ 100 แก้ว แฟรนไชส์ซีจะคืนเงินลงทุนในได้เวลา 2-2.5 ปี ซึ่งจากค่าเฉลี่ยของร้านดิโอโร่ที่ผ่านมา แทบทุกสาขามียอดขายเกิน 100 แก้วต่อวัน ในขณะที่อัตราล้มเหลวของสาขาที่ผ่านมาอยู่ประมาณ 10% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสาขาที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับเป้าในการขยายแฟรนไชส์ในปีนี้ กำหนดไว้ที่ 20-25 สาขา กระจายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ควบคู่กับขยายด้วยบริษัทเองในอัตราใกล้เคียงกัน และตั้งเป้าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีร้านแฟรนไชส์ดิโอโร่กระจายอยู่กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ

 

ข้อมูลติดต่อแฟรนไชส์
ร้านกาแฟ คาเฟ ดิโอโร่
Rachadapisak (Thapra-Taksin) Rd., Bangkok, Thailand 10600
Phone 028760291-5
Email caffe.d.oro@gmail.com
Website : http://www.caffe-d-oro.com