แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

นึกถึงชะอำ คุณนึกถึงอะไร… คำตอบที่ได้มาคงจะคล้ายๆ กันก็คือ สายลม แสงแดง และหาดทรายแต่อย่างที่เรารู้กันว่าชะอำนอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำที่สวยงามน่ามาแล้วนั้น ยังมีร้านรถเข็นขายอาหารอยู่เจ้าหนึ่ง กลิ่นหอมคล้ายสเต็กชวนทาน พอได้เข้าไปดูใกล้ๆ กลับเป็นร้านขายบาร์บีคิวซะนี้เห็นแบบนี้แล้วก็อดไมได้ ต้องขอลิ้มลองสักหน่อย

รวมข้อมูลแฟรนไชส์สเต็กแบบละเอียด คลิ๊ก >>

เจ้าของร้านดังกล่าวคือ “คุณอภินันท์ โภคสวัสดิ์” ที่ขายสเต็กแต่เป็นสเต็กแบบบาร์บีคิว ซึ่งก็คือการนำสเต็กมาเสียบไม้ให้คล้ายบาร์บีคิวนั่นเอง โดยตัวคุณอภินันท์เองได้เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว และได้เรียนรู้สูตรการทำสเต็กจากพ่อครัวคนหนึ่ง แล้วนำสูตรนั้นมาปรับแปลงแปลงให้กลายมาเป็นสูตรเฉพาะของตนเอง ซึ่งก็คือเป็นสเต็กที่คล้ายบาร์บีคิวหรือเรียกอีกอย่างได้ว่าสเต็กบาร์บิคิวนั่นเอง พอคิดค้นสูตรเสร็จก็ลองเอาให้ครอบครัวทาน ปรากฏว่าติดใจ จึงคิดอยากทำขาย จนกลายมาเป็นธุรกิจขายบาร์บิคิวดังกล่าว

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

และด้วยความที่ตัวคุณอภินันท์เองมีความรู้เรื่องการออกแบบมาบ้างพอสมควร เป็นคนชอบคิดและทำอะไรใหม่ๆ เสมอ จึงเกิดไอเดียบาร์บีคิวที่มีรสชาติเหมือนสเต็กทุกประการ โดยเปลี่ยนแค่การวางใส่จานมาเป็นการเสียบไม้เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ดึงดูดลูกค้าไปด้วยในตัว สเต็กชะอำของคุณอภินันนท์ขายในราคาที่ไม่แพงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่นอกจากจะติดใจรสชาติแล้ว ยังถูกใจเรื่องราคาอีกด้วย ถือเป็นกิจการที่ทำง่ายขายคล่อง ไม่เอาเปรียบทางด้านกำไรจากลูกค้าเกินไป

คุณอภินันท์เริ่มทดลองขายสเต็กที่ย่านตลาด อ.ต.ก. ในช่วงที่ย่านนั้นยังมีสถานบันเทิงหรือผับเปิดอยู่หลายร้าน ทำให้ขายได้วันละประมาณ 200-500 ไม้ โดยขายตั้งแต่ 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ราคาไม้ละ 15 บาท ตอนหลังปรับราคาขึ้นเป็น 20 บาท ทำให้มีกำไรรวมทั้งหมด 1,700-1,800 บาท
เนื้อบาร์บิคิวที่นำมาขายนั้นมาจากการหมักและเสียบทิ้งไว้จนส่วนผสมทุกอย่างเข้าเนื้อ จนทำให้นุ่มน่าทาน โดยจะใช้เนื้อ 3 ชนิดด้วยกัน คือ หมู เนื้อวัวอละเนื้อไก่ เมนูที่ขายดีที่สุดเห็นจะเป็นบาร์บิคิวหมู ส่วนเนื้อวัวและไก่จะขายได้ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันลูกค้าที่มาซื้อบาร์บิคิวส่วนใหญ่ชอบในความเหนียวนุ่มของเนื้อ โดยเฉพาะคนที่ชอบทานเนื้อ ส่วนน้ำจิ้มก็เด็ดไม่แพ้ใคร โดยจะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและปราศจากสารปนเปื้อน

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

จุดขายของชะอำบาร์บิคิวอีกอย่างก็คือเมื่อย่างเนื้อแล้ว เนื้อจะไม้ย้อยลงมา น้ำมันจะไม่หยดลงไปในเตาเพราะหากหยดลงไปจะให้เกิดควันเวลาย่าง รสชาติของเนื้อที่ได้อาจไม่อร่อย ทำให้เป็นปัญหาในบางพื้นที่ เช่น ในอาคารหรือหน้าร้านแถบชุมชน ดังนั้น หกไม่มีปัญหาควันรบกวนดังกล่าวก็จะขายได้ดี จากนั้นไม่นาน คุณอภินันท์จำต้องไปทำงานด้านการจัดฉากและกำกับศิลป์เกี่ยวกับการสร้างละคร แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงติดใจในรสชาติฝีมือการทำบาร์บิคิวจึงเรียกร้องให้คุณอภินันนท์กลับมาขายบาร์บิคิวดังเดิม เขาจึงกลับมาขายอีกครั้งที่ชะอำในจังหวัดเพชรบุรี เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ทำให้ขายได้ถึงวันละ 300 ไม้ขึ้นไป และต่อมาตนก็ได้ย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯ และให้น้องชายรับช่วงกิจการต่อ

ส่วนการขายที่กรุงเทพฯ นั้น เริ่มจากการที่มีเพื่อนเสนอให้ขายเมนูบาร์บิคิวกระทะร้อนที่ร้านอาหารชื่อว่าแก้มลิง แถวถนนเสรีไทย เมื่อนำไปขายก็ได้รับความนิยมกลายเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตในเวลาต่อมา ลูกค้าบางคนเริ่มที่จะเข้ามาถามสูตร แต่คุณอภินันท์ได้สัญญากับเจ้าของสูตรไว้ อีกทั้งเห็นว่าเป็นสูตรเฉพาะ เลยตั้งใจว่าจะไม่ขาย แต่ก็เกิดไอเดียว่าจะทำเสียบไม้ให้คนสนใจนำไปขายต่อ จึงเริ่มทำเป็นธุรกิจกึ่งแฟรนไชส์บาร์บิคิวในเวลาต่อมา

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

สำหรับการขายส่งนั้นก็จะทำเป็นเนื้อหมักเสียบไม้เอาไว้เพื่อคงรสชาติให้เท่ากันทุกร้าน ส่วนผัก ผู้ประกอบการสามารถนำไปเสียบเองในระหว่างขายเพื่อให้สดใหม่ได้ ปัจจุบันขายปลีกตั้งแต่ 1-200 ไม้ ราคาไม้ละ 10 บาท และขายส่ง 200 ไม้ขึ้นไปที่ราคาไม้ละ 8 บาท ส่วนราคาขายจะให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเอง ส่วนน้ำจิ้มจะขายอยู่ที่ลิตรละ 120 บาท ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่รับบาร์บิคิวไปขายต่อนั้นจะขายในราคาไม้ละ 12 บาท ไปจนถึง 20 บาท

ปัจจุบันคุณอภินันท์ได้บริหารกิจการขายบาร์บิคิวร่วมกับเพื่อนโดยเน้นการบริการควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการจัดส่งตามงานเลี้ยงสังสรรค์อีกด้วย ในระบบแฟรนไชส์ของเขานั้น ลูกค้าสามารถซื้ออุปกรณ์มาทำได้ด้วยตนเองหรือหากให้จัดหาให้ ก็จะติดราคา 6,000 บาท ซึ่งจะประกอบด้วย เตา โต๊ะ และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ถาด ตะแกรง พร้อมป้ายชื่อร้าน ซึ่งในราคานี้จะไม่รวมรถเข็นที่จะตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น

แฟรนไชส์ “ชะอำ บาร์บีคิว” สเต็กเสียบไม้ ทำง่ายขายฉลุยเริ่มต้นแค่ 10 บาท!

ชะอำบาร์บิคิวเป็นชื่อเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่รวมถึงนักท่องเที่ยวในชะอำรู้จักกันเป็นอย่างดี จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นสเต็กไม้เสียบที่ยังคงรับประกันความอร่อยดังเดิม โดยขณะนี้ลูกค้ามีค่อนข้างมากทำให้ต้องเพิ่มการผลิตสเต็กเฉพาะรสชาติขายให้ผู้ประกอบการนำไปปิ้งย่างเพิ่มได้เอง โดยสเต็กเนื้อตกอยู่ที่กิโลละ 350 บาท สเต็กหมูกิโลละ 300 บาท และสเต็กไก่กิโลละ 250 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมบาร์บิคิว ชะอำ
ชื่อร้าน : ชะอำ บาร์บิคิว
ที่อยู่ : เสรีไทย 3 ถ.เสรี ไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
เบอร์ : 08-7533-9934

หมายเหตุ : รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงรูปภาพประกอบบทความเท่านั้น

รวมข้อมูลแฟรนไชส์สเต็กแบบละเอียด คลิ๊ก >>

แสดงความคิดเห็น