ในสมัยนี้การขายของบนเว็บกำลังมาแรง เว็บ eCommerce เลยมีการแข่งขันกันสูง ถ้าใครๆที่กำลังทำเว็บ eCommerce อยู่ก็คงจะเห็นด้วยนะครับว่า คุณต้องโฆษณาอยู่ตลอดและต้องลองทุกช่องทางไม่ว่าจะออนไลน์ไปถึงบนดิน วันนี้ผมเลยอยากจะมาช่วยอีกแรงด้วยการแชร์กลยุทธ์ที่ผลเคยใช้โฆษณาสินค้าบน Facebook ครับ
ในปี 2560 (หรือ 2017) Facebook มีคนใช้ที่เป็นคนไทยอยู่ 20.6 ล้านคนและเว็บ eCommerce มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปพร้อมๆกับ Facebook มากกว่า 156% ในประเทศไทย มันแปลว่าถ้าตอนนี้คุณไม่เข้าไปขายของใน Facebook ถือว่าคุณเสียโอกาสอย่างมากครับ เพราะตอนนี้คู่แข่งคุณอาจจะกอบโกยลูกค้าอยู่ก็ได้ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาพูดถึง 6 กลยุทธ์ที่คุณสามารถนำเอาไปปรับใช้ในโฆษณาใน Facebook ของคุณให้ขายของให้ได้เยอะๆ
กลยุทธ์ที่ 1: ใช้โฆษณาแบบไดนามิก (dynamic product ad)
การโฆษณาแบบนี้ตามสถิติที่ผมทำๆมา ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร ผมจะอธิบายให้ฟังครับ
สมมุติว่าลูกค้าของคุณเข้ามาดูของในเว็บ แต่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อ Facebook จะจำข้อมูลนั้นไว้แล้วเอาโฆษณาตัวนั้นมาแสดงให้กับลูกค้าคุณดูอีกทีหนึ่ง เพื่อเป็นการย้ำให้ลูกค้าซื้อครับ การโฆษณาแบบนี้เรียกว่า remarketing ครับ การที่คุณจะทำโฆษณา dynamic product ads ก็ไม่ยากครับ
ขั้นตอนที่ 1: อัพโหลดรูปของสินค้าทั้งหมดเข้าไปใน Facebook ad manager เช่น ชื่อ รูป และ ราคา ของสินค้า
ขั้นตอนที่ 2: ใส่ custom audience pixel ลงไปในเว็บของคุณ และเลือกด้วยว่าลูกค้าแบบไหนถึงจะเห็นโฆษณาของคุณ เช่น ต้องอยู่ในเว็บ 2 นาที เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 3: หลังจากใส่ข้อมูลอะไรลงไปหมดแล้ว Facebook จะจัดการข้อมูลเอง คุณแค่ต้องบันทึกโฆษณานี้เอาไว้ และใส่ชื่อของโฆษณาจะได้ไม่ลืมในอนาคตครับ
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าว่าอยากจะให้ Facebook โฆษณาทุกสินค้าทุกตัวเลยหรือเปล่าหรือเฉพาะในบางหมวดหมู่เท่านั้น เพราะบางทีจะมีสินค้าเฉพาะบางหมวดหมู่เท่านั้นที่ขายดี
กลยุทธ์ที่ 2: ใช้ Multi-product ads
Multi-product ads คือการที่คุณสามารถแสดงสินค้าหลายๆสินค้าในโฆษณาเดียวได้ครับ เช่นตัวอย่างข้างล่างนี้เลย
คุณอาจจะใช้ multi-product ad เพื่อการโฆษณาสินค้าที่คล้ายๆกันให้กับลูกค้าของคุณได้เลือก ทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกว่าเขามีตัวเลือก การใช้งาน multi-product ad นี้ไม่ยากเลยครับ ตอนที่กำลังสร้าง dynamic product ad มันจะมีตัวเลือกของ multi-product ad ขึ้นมาครับ สร้างตรงนั้นได้เลย
กลยุทธ์ที่ 3: ทำ Facebook Remarketing
หลายๆคนที่เข้ามาดูของในเว็บของคุณ เขาอาจจะไม่ซื้อทีเดียวครับ เพราะเขาอาจจะติดธุระ หรือยังไม่ว่างจะซื้อตอนนั้น ถ้าคุณไม่ตามเขา เขาก็จะลืมแล้วก็อาจจะไปซื้อของที่อื่นได้เลย เพราะฉะนั้นการทำ Remarketing เลยสำคัญมากครับ ผมเขียนในอีกโพสต์หนึ่งเกี่ยวกับการทำ Facebook Remarketing ด้วยตัวเอง สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี้เลยนะครับ: Facebook Remarketing อธิบายแบบง่ายๆ ทำเองได้ 100% – Zozav.com
กลยุทธ์ที่ 4: หาลูกค้าใหม่ด้วยการใช้ Lookalike Audience
Lookalike audience ก็คือกลุ่มคนที่มีอะไรคล้ายๆกับลูกค้าปัจจุบันที่คุณกำลัง target อยู่ครับ นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีเด็ดที่จะขยายฐานลูกค้าของคุณให้กว้างออกไปอีกครับ สำคัญคนที่ยังไม่มั่นใจว่าทำ Lookalike audience ยังไง ผมจะทำให้ดูคร่าวๆ แล้วหลังจากนี้เอาไปทำเองได้ 100% ครับ
Step 1: ให้กดเข้าไปที่นี้: Facebook ads manager แล้วจะเห็นต่างแบบนี้ กดเข้าไปตรงนี้ได้เลยครับ
Step 2: เลือก source ว่าจะเจาะจงคนจากไหน จากคนติดตามเพจคุณหรือเปล่า หรือว่าคุณมี list ที่คุณบันทึกเอาไว้อยู่แล้ว ใส่ชื่อลงไปเลยครับ
เลือกพื้นที่ด้วยว่าจะให้ Facebook เริ่มหาคนที่เหมือนกับลูกค้าคุณจากที่ไหน อย่าเลือก audience size ใหญ่เกินไปนะครับ เพราะว่าถ้าใหญ่เกินไป Facebook จะไปยิงโฆษณาใส่คนที่ไม่ได้สนใจสินค้าคุณขนาดนั้น จะเปลืองตังเปล่าๆ เสร็จแล้วก็กด “create audience” แค่นั้นก็เสร็จแล้วครับ
กลยุทธ์ที่ 5: ใช้ Video เพื่อทำ branding
บางทีการที่เราจะทำโฆษณาเอาแต่จะขายของอย่างเดียวมันก็ไม่ไหวครับ เพราะลูกค้าอาจจะเกิด ad fatigue ได้ Ad fatigue คือการที่ลูกค้าคุณเห็นโฆษณาคุณบ่อยเกินไปจนรู้ค้ารู้สึกรำคาญหรือรู้สึกเฉยๆไม่สนใจไปเลย
เพราะฉะนั้นคุณต้องเปลี่ยนจากการขายเป็นการบอกเรื่องราวของบริษัทคุณบ้างครับ อาจจะเป็นเรื่องราวการก่อตั้ง หรือว่าเรื่องราวที่ลูกค้าของคุณใช้ผลิตภัณไปแล้วและชีวิตเปลี่ยน อะไรก็ว่ากันไปครับ เหมือนในวิดีโอนี้ครับ
กลยุทธ์ที่ 6: ยิงโฆษณาให้กับลูกค้าที่มีอยู่แล้ว
ใช้ custom audience เพื่อจะที่สร้างรายชื่อของลูกค้าที่คุณมีอยู่แล้ว อาจจะได้มาจาก email, Facebook ID หรือไม่ก็เป็นเบอร์โทรศัพท์ครับ คุณควรจะทำแบบนี้ให้ลูกค้าคุณรู้สึกผูกพันธ์กับ brand ของคุณยิ่งเข้าไปอีกครับ
ยิงโฆษณาให้กับลูกค้าที่มีอยู่แล้วให้มาติดตามเพจ คนที่เขาซื้อของกับคุณอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เขาไม่มีปัญหาหรอกครับที่จะไปติดตามเพจของคุณ ดังนั้นต้องยิงโฆษณาไปหาเขาเพื่อมาไลค์เพจด้วย เสนอคูปองส่วนลดหรือโปรโมชั่นอื่นๆให้กับฐานลูกค้าเดิม อย่างที่บอกไปเลยครับว่าฐานลูกค้าเดิมจะไม่มีปัญหาในการซื้อซ้ำถ้าไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นคุณต้องลองยิงโฆษณาเกี่ยวกับส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษให้กับเขา
ทำยังไงต่อหลังจากนี้?
ไม่มีอะไรมากเลยครับ เพราะว่าหลังจากคุณตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่รอแล้วเตรียมนับเงินอย่างเดียว
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ jj-marketing-guy จาก thaiseoboard.com