ไอเดียธุรกิจ ชาร์โคลไม้ยูคาลิปตัส
“เด็กเอาถ่าน (DEK AO THAAN)” รายแรกและรายเดียวในไทย
สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านความสวยงามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีวัตถุดิบชนิดใหม่ๆที่ล้วนมีคุณสมบัติด้านบำรุงผิวพรรณจำนวนมาก ซึ่ง “ชาร์โคล” ที่แม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยไม่นานแต่คุณประโยชน์ของมันนั้นได้รับความนิยมมาแล้วทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลีใต้ ดินแดนแห่งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยอดนิยม
สำหรับไอเดียธุรกิจของนักศึกษาปีที่ 2 แบรนด์ “เด็กเอาถ่าน” นี้ ได้นำชาร์โคลมาเป็นส่วนผสมหลักเช่นเดียวกัน สำหรับที่มาของชาร์โคลนั้นคือ ถ่านที่ได้มาจากการเผาพืชชนิดต่างๆด้วยอุณหภูมิที่สูงมาก จนได้เป็นถ่านไม้สีดำ แต่ความพิเศษของชาร์โคลเด็กเอาถ่านอยู่ที่การนำต้นยูคาลิปตัสมาเผาในอุณหภูมิสูง ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีเจ้าของธุรกิจรายใดคิดค้นมาก่อน แม้ว่าแบรนด์นี้จะแจ้งเกิดมากว่า 1 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีคู่แข่งในท้องตลาด
จุดเริ่มต้นของไอเดียธุรกิจของเด็กเอาถ่านนี้มาจาก “คุณสุชญา นพรัตน์” หรือ “น้องมายด์” นักศึกษาปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งที่บ้านของเธอประกอบอาชีพขายต้นยูคาลิปตัสที่มีจำนวนมากเป็นร้อยไร่ให้แก่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ในช่วงปัจจุบันกลับไม่สามารถขายได้อีกจึงทำให้รายได้ของครอบครัวหายไป และด้วยวัตถุดิบคือ ต้นยูคาลิปตัสที่มีจำนวนมาก ทำให้เธอได้ไอเดียธุรกิจที่จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวเหมือนเดิมได้
แบรนด์เด็กเอาถ่านนั้นมีการจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกาย โดยมีส่วนผสมมาจากชาร์โคลยูคาลิปตัสเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ผงพอกหน้า แชมพู ผงล้างผลไม้ เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของการนำต้นยูคาลิปตัสมาเผาเป็นชาร์โคลนั้นอยู่ที่รูพรุนของมันนั้นมากกว่าต้นไผ่ที่นิยมเผากันในท้องตลาด อีกทั้งยังเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบจำนวนมาก ทำให้มีคุณสมบัติในการดักจับสารที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่า นอกจากนี้ต้นยูคาลิปตัสยังมีการดูดซึมสารอาหารมาเก็บไว้จำนวนมากกว่าต้นไผ่ เมื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆจึงทำให้สามารถดูดซับแบคทีเรีย สิ่งสกปรก พร้อมกันบำรุงผิวไปได้พร้อมกัน
สำหรับกระบวนการผลิตชาร์โคลต้นยูคาลิปตัสนั้นใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านบาท โดยมีการนำเข้าเตาเผาคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่า 3 ล้านบาท เพื่อนำมาเผาไม้อุณหภูมิสูง 1,300 องศา นานติดต่อกัน 15 วัน จึงจะได้ชาร์โคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการนำไปใช้งาน และเงินลงทุนอีก 1 ล้านบาทจะเป็นการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ได้วางจำหน่ายในท้องตลาดมานานกว่า 1ปีแล้ว
สำหรับไอเดียธุรกิจเด็กเอาถ่านนี้จนปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งในตลาดที่นำต้นยูคาลิปตัสมาผลิตเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะสำเร็จได้นั้นเธอก็ได้มีการนำงานวิจัยที่มีอยู่เดิมใน มทร.กรุงเทพมาต่อยอด อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวเป็นสำคัญ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ และการเช้าร่วมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ทำให้เธอได้รับความรู้และนำมาพัฒนาแบรนด์ได้ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 เท่านั้น
แผนงานในอนาคตหลังเธอจบการศึกษาคือการพัฒนาแบรนด์เด็กเอาถ่านให้กลายเป็นผู้ผลิตชาร์โคลแบบครบวงจรและเธอจะเข้ามาดูแลธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว อีกทั้งจะมีการผลิตสินค้าใหม่ๆมานำเสนอแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ข้อมูลติดต่อ ไอเดียธุรกิจ เด็กเอาถ่าน
Facebook : เด็กเอาถ่าน ชาโคล
เบอร์โทรศัพท์ : 086-3127229
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพจาก : ผู้จัดการออนไลน์