10 ผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมรายการหาเงินลงทุน
“Shark Tank” แล้วกลับมาดังเปรี๊ยงปร๊าง!
“Shark Tank” คือรายการดังทางช่อง ABC เป็นรายการที่จะนำเอานักลงทุนจำนวน 5 คนมานั่งฟังผู้ประกอบการเล่าถึงฝันและการหาเงินทุนไปต่อยอดธุรกิจ เปรียบนักลงทุนเป็น “ฉลาม” ที่จะคอยรุมกัดรุมทึ้งเหยื่อหรือ “ผู้ประกอบการ” หากว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับแนวความคิด แต่ถ้าหากพวกเขาเห็นด้วยผู้ประกอบการจะได้รับเงินลงทุนแต่จะต้องแลกกับส่วนแบ่งที่ต้องให้แก่นักลงทุนเหล่านั้นด้วยเช่นกัน และนี่คือตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ฝ่าดงฉลามมาได้เป็นผลสำเร็จและต่อยอดธุรกิจจนดังเปรี๊ยงปร๊างภายในเวลาอันรวดเร็ว
1. Scrub Daddy
Scrub Daddy ก่อตั้งโดย Aaron Krause และ Lori Greiner จากบริษัทเล็กๆได้เข้าร่วมรายการหาเงินลงทุนชื่อดัง Shark Tank ก็ได้รับเงินทุนและกลับมาประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว โดยในปีที่ผ่านมาบริษัท Scrub Daddy สามารถทำรายได้ได้กว่า 75 ล้านดอลลาร์ จากความสามารถของนักลงทุนที่มองธุรกิจทะลุปรุโปร่ง Lori Greiner
Lori Greiner ทำข้อตกลงกับผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นอื่นๆในการขอเงินลงทุนจำนวน 200,000 ดอลลาร์ แลกกับการที่เขาจะให้หุ้นจำนวน 20% จากจุดเดิมที่ Aaron Krause ใช้เวลาถึง 18 เดือนต่อการหารายได้ 100,000 ดอลลาร์ แต่ Lori Greiner เห็นถึงศักยภาพของบริษัทและสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 75 ล้านดอลลาร์ในหนึ่งปี
2. Tipsy Elves
บริษัทผลิตเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายแปลกใหม่ที่สามารถใส่ตามฤดูกาล เทศกาลต่างๆ หรือวันหยุด วันสำคัญ เป็นต้น แม้ว่าช่วงแรกๆแบรนด์เสื้อผ้าจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างคาดหมายเท่าไหร่ แต่ปี 2013 เมื่อเขาเข้าร่วมรายการกาย Shark Tank จนสามารถหาเงินทุนมาได้ เขาสามารถสร้างรายได้ประจำปีได้มาก 900,000 ดอลลาร์ และตั้งเป้าว่าในปีต่อไปจะสร้างยอดขายให้ถึง 12 ล้านดอลลาร์
3. Breathometer
Charles Yim ผู้ก่อตั้ง Breathometer บริษัทผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์ตรวจวัดไข้ผ่านการเชื่อต่อด้วยสมาร์ทโฟน Charles Yim เข้าร่วมรายการในซีซั่นที่ 5 โดยเขาได้รับเงินลงทุน 6,500,000 ดอลลาร์ แต่แลกกับหุ้นส่วนในบริษัท 30% ของเขาที่จะต้องให้กับนักลงทุนที่ให้เงินลงทุนจากรายการ Shark Tank
4. Bubba’s-Q Boneless Ribs
ธุรกิจร้านสเต๊ก ก่อตั้งโดย Bubba และภรรยา ในปี 1997 หลังจากที่เขาเกษียณจากฟุตบอลอาชีพ Bubba และSabrina เปิดธุรกิจอาหารสไตล์อาหาร Bar-B-Q แบบดั้งเดิม Bubba ได้รับเสียงสนับสนุนถึง 5 เสียงด้วยกันจากรายการ Shark Tank ในการหาเงินทุน 300,000 ดอลลาร์แลกกับหุ้นในธุรกิจ 30% หลังจากที่ได้เงินมาลงทุนหนึ่งในนักลงทุนก็สนับสนุนด้วยการจัดการที่มีโรงงานขนาดใหญ่รองรับซึ่งสามารถจะดันให้แบรนด์สินค้ากลายเป็นสินค้าที่สร้างรายได้กว่า 200 ล้านดอลลาร์ได้
5. Grace and Lace
ในซีซั่นที่ 5 Barbara Corcoran ลงทุน 175,000 แลกกับการหุ้น 10% ของบริษัทเสื้อผ้าแฟชั่น Grace and Lace แคโรแรนด์กล่าวว่านี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่งของเธอ ซึ่งบริษัท Grace and Lace ก่อนที่จะเข้าร่วมในรายการพวกเขาสามารถสร้างได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจานี้พวกเขาคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 6.5 ล้านดอลลาร์
6. Ten Thirty One Productions
Melissa Carbone ซีอีโอของบ้านสยองขวัญ Ten Thirty One Productions ได้รับเงินลงทุนจากการเข้าร่วมรายการในซีซั่นที่ 5 จำนวน 2 ล้านดอลลาร์แลกกับหุ้นส่วนที่ต้องให้นักลงทุน 20% หลังจากนั้นในปีที่ผ่านมาบริษัททำรายได้ได้ถึง 3 ล้านดอลลาร์ ได้รับความนิยมมากในช่วงวันฮาโลวีน อีกทั้งมีการวางแผนขยายสาขาไปที่อื่นๆเพิ่มขึ้นด้วย
7. Wicked Good Cupcakes
Tracey Noonan และ Danielle Vilagie คู่แม่ลูกจากบอสตันและฝีมือการทำคัพเค้กในขวดแก้วกับบริษัทของพวกเธอได้เข้าร่วมรายการ Shark Tank ในซีซั่นที่ 5 และทำข้อตกลงกับแลร์รี่ส์เพื่อให้ลงทุน 75,000 ดอลลาร์ โดยเขาจะได้รับ 1 ดอลลาร์ต่อการขายคัพเค้กทุกชิ้นจนกว่าเขาจะได้เงินลงทุนครบและหลังจากนั้นเขาจะได้รับ 50%ของการขายคัพเค้ก เนื่องจากการเข้าร่วมรายการในครั้งทำให้ Wicked Good Cupcakes เป็นที่รู้จักและสามารถขยายไปยังฐานการผลิตพื้นที่ใหม่ พวกเขาสามารถสร้างรายได้ถึง 400,000 ต่อเดือนหรือประมาณ 4.8 ล้านดอลลาร์ต่อปี
8. Red Dress Boutique
ก่อตั้งโดย Diana และ Josh Harbour พวกเขาได้รับเงินลงทุน 1.2 ล้านดอลลาร์โดยแลกกับการให้นักลงทุนได้รับหุ้น 10% ไดอาน่าและจอร์ชสร้างแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์สำหรับผู้หญิง หลังจากที่พวกเขาได้ปรากฏตัวในรายการดังกล่าวก็มียอดสั่งซื้อทะลักเข้ามาถึง 1 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เมื่อได้รับคำปรึกษาจากนักลงทุนในการแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานในปีล่าสุดพวกเขาสร้างรายได้ได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์
9. Bombas
เกิดขึ้นจากการร่วมกันก่อตั้งของ David Heath และ Randy Goldberg ในซีซั่นที่ 6 Bombas ได้ให้นักลงทุนในรายการ Shark Tank ได้เข้ามาถือหุ้นจำนวน 17.5 % แลกกับเงินลงทุนจำนวน 200,000 ดอลลาร์ บริษัทนี้ผลิตถุงเท้าและขายถุงเท้าออนไลน์ 4 วันหลังจากที่พวกเขาได้เข้าร่วมรายการสามารถขายถุงเท้าได้เป็นเงินถึง 400,000 ดอลลาร์
10. Simple Sugars
Simple Sugars ก่อตั้งโดย Lani Lazzari ผลิตสินค้าบำรุงผิวด้วยสกัดจากน้ำตาล ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 18 ปี ในการเข้าร่วมหาเงินลงทุนจากรายการ Shark Tank ซีซั่นที่ 4 เธอได้รับเงินลงทุน 100,000 ดอลลาร์แลกกับหุ้น 33% ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงจากการเริ่มต้นขายสินค้า Lazzari สามารถทำเงินได้เพิ่มขึ้นถึง 220,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่เคบทำได้ 50,000 และเธอสามารถดันยอดทุบสถิติยอดขายของเธอได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ใน 6 สัปดาห์ต่อมา
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://www.businessinsider.com
fantastic issues altogether, yoou simply won a neww reader.
What would you suggrst about your submit that you just made some days in the past?
Any positive? https://lvivforum.Pp.ua