15 เรื่องน่าทึ่งจาก hersheys ช็อคโกแลตแบรนด์ดังระดับโลก

15 เรื่องน่าทึ่งจาก hersheys ช็อคโกแลตแบรนด์ดังระดับโลก

หลายคนรู้จักแบรนด์ hersheys แต่มีไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะเคยรู้เรื่องราวความเป็นมา หรือประวัติของแบรนด์ โดยเรื่องราวเหล่านั้นที่เกี่ยวข้องกับ hersheys มีหลายเรื่องน่าทึ่งซ่อนอยู่ ซึ่งครั้งนี้ก็ได้มีการรวบรวมเรื่องราวเหล่านั้นมาไว้ที่นี้ ที่เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าหากได้รับทราบข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ จะต้องรู้สึกทึ่งไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน และเรื่องราวอันน่าทึ่งของ hersheys ได้แก่

1.อาณาจักร HERSHEY สร้างขึ้นจากวุฒิการศึกษา ป.4

ครอบครัวเฮอร์ชีย์มีการย้ายที่อยู่บ่อยครั้งทำให้ “มิลตัน เฮอร์ชีย์” กลายเป็นเด็กที่ต้องย้ายโรงเรียนบ่อยตามไปด้วย และหลังจากเฮอร์ชีย์จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ่อแม่ของเขาก็ตัดสินใจให้เรียนรู้เรื่องการค้าขาย ทำให้เขาได้เริ่มฝึกงานกับเครื่องพิมพ์ แต่ไม่รู้สึกชอบนัก กระทั่งปี 1872 เขาได้เริ่มทำงานกับคนขายขนมในแลงคาสเตอร์เพนน์

2.ความรักครั้งแรกของ Milton HERSHEY คือคาราเมล

ในปี 1876 มิลตัน เฮอร์ชีย์เดินทางไปที่ฟิลาเดลเฟียและใช้สิ่งที่เขาเรียนรู้ในฐานะผู้ฝึกสอน เพื่อเริ่มต้นธุรกิจแรกของเขาคือคริสตัลเอคาราเมล กระทั่งกิจการนี้ล้มเหลว เฮอร์ชีย์ก็พบว่ามีการฝึกงานอีกครั้งในเดนเวอร์ หลังจากจัดกลุ่มออกไปทางตะวันตก จากนั้นเขาเริ่มบริษัทที่ 2 ในนิวยอร์กซึ่งก็ล้มเหลวเช่นกัน เฮอร์ชีย์จึงกลับบ้านและเปลี่ยนเป็นบริษัทที่ 3 คือ บริษัทแลงคาสเตอร์คาร์เมล และกลายเป็นผู้นำระดับโลกที่มีพนักงานกว่า 1,400 คน

3.Milton HERSHEY กลายเป็นคนสนใจในช็อกโกแลตหลังจากปี 1893

จนกระทั่งเมื่อ 17 ปีหลังจากที่เขาเปิดบริษัทคาราเมลแห่งแรกที่ล้มเหลว เฮอร์ชีย์ก็เริ่มสนใจการทำช็อกโกแลต ในขณะที่เข้าร่วมงานนิทรรศการ Columbian Exposition ของโลกในปี 2436 ที่เมืองชิคาโก เฮอร์ชีย์ได้ไปจัดแสดงการผลิตช็อคโกแลตเยอรมันที่เขาซื้อเครื่องจักรของนิทรรศการหลังจากปิดนิทรรศการ ปีต่อมาเขาเปิดบริษัท Hershey Chocolate Company ขึ้นที่เมืองแลงคาสเตอร์ การร่วมทุนครั้งใหม่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 1900 เฮอร์ชีย์ขายบริษัทคาราเมลของเขาในราคา 1 ล้านดอลล่าร์ เพื่ออุทิศให้กับช็อคโกแลต

4.ครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัททำหมากฝรั่งมาก่อน

มิลตันเฮอร์ชีย์ไม่กลัวที่จะเข้าใกล้บริษัทคู่แข่ง เมื่อเขาเชื่อว่า Beech Nut Gum สามารถกลายเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้เขาได้ เขาจึงหันไปใช้งาน Clayton ลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างหนัก ในการหาซื้ออุปกรณ์และรวบรวมความรู้ เพื่อสร้างหมากฝรั่งของเขาให้กลายเป็นสินค้าติดตลาดให้ได้ โดยใช้ชื่อว่า “Easy Chew” เปิดตัวในปี 1915 แต่เฮอร์ชีย์มีปัญหาในเรื่องของน้ำตาลและหมากฝรั่ง รวมทั้งข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าที่ค่อนข้างยากลำบาก ระทั่ง Easy Chew ปรากฏตัวครั้งล่าสุดบนชั้นขายของในปี 1924

5.ไม่มีใครรู้ว่า KISSES ชื่อนี้มีที่มาจากอะไร

Hershey Food Corporation ยังคงเป็นเครื่องหมายการค้าของ “KISSES” ซึ่งตีตลาดในปี 1907 แต่อย่าถามว่าชื่อนี้หมายถึงอะไร มิลตัน เฮอร์ชีย์ กล่าวว่าเขาจะนำความลับนี้ฝังไปหลุมศพของเขา

6.HERSHEY’S KISSES ใช้ห่อด้วยมือ

ห่อช็อคโกแลตรูประฆังในกระดาษฟอยล์ คือลายเซ็นของพวกเขา หมายถึงว่าการห่อช็อคโกแลตเป็นรูประฆังนั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ซึ่งเมื่อเราเห็ยช็อคโกแลตรูประฆังเราก็จะทราบทันว่านั่นคือ HERSHEY’S KISSES ซึ่งกระบวนการห่อขนมเป็นรูประฆังนั้นใช้ขั้นตอนการห่อด้วยมือและเป็นแบบนั้นมาตลอดจนถึงปี 1921 เป็นเวลา 14 ปี หลังจากก็ได้เริ่มมีการพัฒนาและเริ่มมีเครื่องจักรเข้ามาช่วย

7.Hershey Park สร้างขึ้นเพื่อพนักงานของโรงงาน

ในฐานะเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จพร้อมพนักงานจำนวนมาก มิลตัน เฮอร์ชีย์ เชื่อว่าการที่บริษัทจะประสบความสำเร็จได้นั้น พนักงานของเขาต้องมีความสุข เขาจึงออกแบบและสร้างเมืองจำลองให้เป็นชุมชน โดยมีบ้านอิฐและสนามหญ้า ทั้งยังก่อตั้ง Hershey Park เพื่อให้พนักงานมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

8.โลโก้ของบริษัทที่ใช้เป็นเด็กอยู่ข้างใน COCOA BEAN

เป็นเวลา 7 ทศวรรษ ภาพที่บรรดาเลิฟเวอร์ช็อคโกแลตเฮอร์ชีย์คือ “Cocoa Bean Baby” เปิดตัวในปี ค.ศ.1898 โดย tot จะปรากฏบนบรรจุภัณฑ์และในโฆษณา จนกระทั่งบริษัทกลายเป็นบริษัทอาหารเฮอร์ชีย์ในปี 1968

9.บริษัทเกือบล่มไปกับไททานิก

คิตตี้ เฮอร์ชีย์และภรรยาของเขา มีตั๋วไปขึ้นเรือไททานิกในการเดินทางครั้งแรก แต่มีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องกลับบ้าน มีการกล่าวอ้างเอาไว้แตกต่างกัน 2 ประการ ประการแรกคือ คิตตี้ป่วย ส่วนประการที่ 2 คือ มิลตันติดธุรกิจที่ทำให้เขาต้องอยู่บ้าน แต่ไม่ว่าจะด้วยประการใดก็ตาม เรือออกจากท่าเทียบเรือโดยไม่มีพวกเขาและเราทุกคนรู้ดีว่ามันสิ้นสุดลงอย่างไร

10.THE NAME “MR. GOODBAR” มาจากความผิดพลาด

ในฐานะนักเคมีพืช (และประธานคนต่อมา) ซามูเอลฮิงก์เล่าในภายหลังว่า บริษัทกำลังหาวิธีเพิ่มผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงในสายงานของพวกเขา ช่วงปี 1920 ในขณะที่ผู้บริหารกำลังคิดชื่อ  ใครบางคนบอกว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น “บาร์ที่ดี” มิลตัน เฮอร์ชีย์ นั้นฟังผิดและคิดว่าผู้บริหารได้กล่าวว่า “นาย Goodbar” และรู้สึกชอบชื่อ ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้ชื่อนี้

 

11.ช็อคโกแลตของ HERSHEY เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทหารของสหรัฐอเมริกา

ปี 1937 กองทัพสหรัฐได้เข้าพบตัวแทนจากบริษัทเฮอร์ชีย์ เพื่อให้ผลิตช็อคโกแลตทนความร้อน และส่งไปยังกองทัพทหารเขตร้อน เหตุผลเพราะอยากให้ทหารได้รับประทานสิ่งที่มีรสชาติดีกว่ามันฝรั่งต้ม ทำให้ระหว่างปี 1941 – 1945 เฮอร์ชีย์ได้ทำการผลิตมากกว่าหนึ่งพันล้านแท่ง สำหรับช็อคโกแลตนี้มีชื่อว่า The Field Ration D

12.ช็อกโกแลตทนความร้อน HERSHEY’S เคยขึ้นไปบนดวงจันทร์แล้ว

หลังจากความสำเร็จของ Ration D bar เฮอร์ชีย์ได้ทำงานร่วมกับทหารอีกครั้งเพื่อสร้างช็อคโกแลตที่ทนความร้อนได้นานถึง 1 ชั่วโมงในอุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส และมอบให้กับทหารที่หิวโหยในปี 1971 โดยช็อคโกแลตนั้นถูกมอบให้กับนักบินอวกาศบน Apollo 15

13.มีจูบที่ซ่อนอยู่ในโลโก้ของ HERSHEY KISSES

หากลองสังเกตุข้อความที่ซ่อนอยู่เพิ่มเติมในโลโก้ของบริษัท ก็รู้ได้ทันทีว่ามีหลายด้านที่ KISS ซ่อนตัวระหว่าง “K” และ “I”

14.บริษัทสร้างสถิตระดับโลกสำหรับ “ชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกของช็อคโกแลต”

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 100 ในปี 2007 เฮอร์ชีย์ทำ KISS ยักษ์ที่ชั่งน้ำหนักกว่า 30,000 ปอนด์ ทีมงาน 152 คนใช้เวลาเก้าวันในการสร้างรูปปั้นสูง 12 ฟุตและห่อด้วยกระดาษฟอยล์กว่า 16,000 ฟุต

15.เฮอร์ชีย์เป็นผู้ซื้ออัลมอนด์รายใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ

การซื้ออัลมอนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น Almond Joy, Hershey’s Nuggets, Hershey’s Pieces with Almonds, and Hershey’s Kisses White Chocolate with almonds เป็นการซื้ออัลมอนด์ที่ทำให้ชาวสวนอัลมอนด์ในรัฐแคลิฟอร์เนียงานยุ่งมาก

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งของบริษัทช็อคโกแลต Hersheys ขนมหวานที่ใครหลายคนหลงใหลดังเช่นทุกวันนี้ และเป็นบริษัทที่มีอายุคงอยู่ยาวนานอย่างมั่นคงและมั่งคั่ง