4 เทคนิค ลงโฆษณาอย่างคุ้มค่าเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภค
ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะได้ผลตอบแทนมากที่สุดจากเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไป มาดู 4 เทคนิค ที่จะช่วยให้คุณใช้งบประมาณเพื่อลงโฆษณาอย่างชาญฉลาดกัน
1. เน้นหาลูกค้ามากกว่าการสร้างแบรนด์
หาช่องทางสื่อที่เหมาะกับโฆษณาของคุณที่สุด เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า จริงอยู่ว่าการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity)นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินค่าพื้นที่โฆษณาจะต้องนำไปใช้เพื่อการสร้างแบรนด์เพียงอย่างเดียว การทำให้ชื่อของแบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำหรือรู้จักนั้นก็สามารถทำได้ผ่านการผลิตสินค้าและบริการชั้นดีไปสู่ผู้ซื้อได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะกับธุรกิจใหม่ๆ
อย่าลืมใส่เบอร์โทรศัพท์หรือเว็บไซต์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเพื่อดูการตอบรับของโฆษณาที่ลงไป ผู้ที่เห็นโฆษณาควรจะเกิดความรู้สึกอยากจะโทรหาหรือเข้าชมเว็บไซต์เพื่อดูสินค้าหรือบริการของเรา รวมไปถึงการมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่เห็นโฆษณาแล้วติดต่อเข้ามาด้วย สิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างคือ การหาช่องทางสื่อที่เหมาะกับโฆษณาของคุณที่สุด เพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่มีแน้วโน้มว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณรวมไปถึงผู้ที่สนใจหรือกำลังมองหาทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
2. พยายามสอดแทรกโฆษณาไว้ในรูปแบบอื่นๆ
พยายามสอดแทรกโฆษณาไว้ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ทางโทรทัศน์ก็ให้มีการพูดถึงในรายการหรือระหว่างช่วงพัก ทางวิทยุก็เช่นการกระจายโฆษณาไปในหลายๆคลื่นหรือร่วมเป็นสปอนเซอร์จัดงานต่างๆในท้องถิ่น และถ้าเป็นทางด้านสื่อสิ่งพิ
มพ์ก็เช่นการจัดวางโฆษณาที่มากขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น หรือลงเป็นบทความพิเศษเป็นแบบAdvertorial เป็นต้น ลองใช้สื่อหลายๆแบบผสมกันและดูว่าสื่อไหนให้ผลดีที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
3. อย่าลืมประชาสัมพันธ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีเรื่องราวหรือที่มาของสินค้่าและบริการที่แปลกใหม่ พยายามหาจุดเด่นและดึงมันออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ สื่อชอบบริการที่ไม่เหมือนใครหรือสินค้าที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากๆ ถ้่าหาความแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆได้ สินค้าและบริการของคุณก็จะได้ไปอยู่ในรายการหรือมีสื่อมาสัมภาษณ์และได้รับการประชาสัมพันธ์เองโดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินไปลงโฆษณา
4. กลับมาลองทำ Direct Mail
การทำการตลาดผ่านอีเมล์นั้นสำคัญก็จริง แต่ก็อย่ามองข้ามการส่ง Direct Mail ไปหาลูกค้าด้วย คุณอาจจะคิดว่าวิธีนี้ล้าสมัย แต่จริงๆแล้วมันก็มีข้อดีหลายอย่าง ด้วยความที่การส่งจดหมายแบบนั้นมีทุนในการส่งค่อนข้างสูงทำให้คู่แข่งมีไม่มาก ซึ่งทำให้การทำ Direct Mall ของคุณมีโอกาสได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น นอกจากนั้นถ้าหากว่าคุณมีโปรโมชั่นดีๆหรือมีรายชื่อลูกค้าที่ดี ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการขายให้กับสินค้าหรือบริการของคุณมากขึ้น
การลงทุนทำ Direct Mail นั้นจะให้ผลตอบแทนระยะยาวที่ดีแก่ธุรกิจของคุณ เพราะการค่อยๆเก็บสะสมรายชื่อและฐานข้อมูลของลูกค้านั้นจะกลายเป็นเสมือนทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณในอนาคตนั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : incquity.com (http://incquity.com)