5 กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ให้น่าจดจำ ในระดับโลก

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์

5 กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ให้น่าจดจำ ในระดับโลก

“Jerome Burner” นักจิตวิทยาระบุว่าข้อความที่ถูกส่งผ่านเรื่องราวน่าจดจำมากกว่าข้อความที่มีเพียงข้อเท็จจริงสูงถึง 22 เท่า ข้อมูลนี้ได้กลายเป็นเหตุผลที่แบรนด์ระดับโลกให้ความสำคัญกับการส่งผ่านเรื่องราวของแบรนด์ เสมือนเป็นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่สำคัญ เพราะลูกค้าปัจจุบันเลือกซื้อสินค้าจากเรื่องราวที่ดีของผลิตภัณฑ์หรือบริการ แสดงให้เห็นว่าลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่จากปัจจัยที่มากกว่าข้อเท็จจริงที่มีอยู่ และจากผู้ที่ผ่านประสบการณ์ในธุรกิจการสร้างวิดีโอและเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์มาเกือบ 9 ปี ได้เผยถึง 5 วิธีที่สำคัญที่สุดของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในการเล่าเรื่องเพื่อนำพาแบรนด์ไปสู่การเป็นซุปเปอร์สตาร์ ได้แก่

1.กำหนดความขัดแย้ง/ อะไรที่เป็นปัญหาของลูกค้า 

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ข้อแรก ก่อนเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ลูกค้าได้รับฟัง ควรกำหนดความขัดแย้งของลูกค้าก่อน โดยแบรนด์จะต้องรู้ว่าอะไรที่เป็นปัญหาของลูกค้า ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อกำหนดให้แน่ชัดว่านั่นคือสิ่งที่เป็นความขัดแย้งของลูกค้าที่แท้จริง เมื่อกำหนดได้แล้วให้นำข้อมูลนั้นมาสร้างเป็นเรื่องราวของแบรนด์ที่พร้อมจะแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ อาจใช้การเล่าเรื่องราวที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการที่ลูกค้าต้องต่อสู้กับความขัดแย้ง คือรากฐานในเรื่องราวของแบรนด์ ช่วยให้การเล่าเรื่องของแบรนด์ประสบความสำเร็จ

2.สร้างเรื่องราวจากอุปสรรคและยึดมั่นในเรื่องนี้

การสร้างเรื่องราวจากอุปสรรคที่แบรนด์เคยพบเจอและยึดเรื่องนี้เป็นแก่นสารสำคัญในการเล่าเรื่อง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่สำคัญ ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงการต่อสู้ของแบรนด์ การนำมาซึ่งความสำเร็จของแบรนด์ที่ทำให้ยืดหยัดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นการดึงดูดใจผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง เพราะการเล่าถึงอุปสรรคและการบอกกล่าวถึงชัยชนะ คือการแสดงออกถึงความสำเร็จ สื่อได้ถึงภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่น่าจดจำ ยกตัวอย่าง เรื่องราวของเว็บไซต์หนึ่งที่โดนไวรัสโจมตี เว็บฯ นี้สร้างแบรนด์ขึ้นมาบนความล้มเหลวและบทเรียนที่ได้รับ และกลายเป็นที่รู้จักในที่สุด แสดงให้เห็นว่า เมื่อแบรนด์เลือกเน้นในเรื่องของความล้มเหลวไปสู่ความสำเร็จ เป็นบรรทัดแรกของการเล่าเรื่อง เมื่อนั้นก็จะช่วยดึงดูดความสนใจได้ในระดับหนึ่ง

3.วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ผู้ชม

การวิเคราะห์เปรียบเสมือนผู้กำกับในการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ดังนั้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ควรตระหนักถึงก็คือการรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภค เพื่อนำมาวิเคราะห์ผู้รับชมหรือรับฟังเรื่องราวของแบรนด์ตามลำดับ โดยข้อมูลของผู้บริโภคที่ต้องนำมาวิเคราะห์นั้น ได้แก่ พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค เพื่อวิเคราะห์ถึงความสนใจของผู้บริโภคล่วงหน้า หากรับทราบถึงความสนใจก็จะช่วยให้การเล่าเรื่องนั้นมีทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสื่อสารได้ตรงประเด็นระหว่างแบรนด์และผู้รับสารซึ่งเป็นผู้บริโภคของแบรนด์ การวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยในการกำหนดหัวข้อเรื่อง สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถสร้างเรื่องเล่าที่ช่วยกระตุ้นการขายได้ อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการใช้แคมเปญโฆษณาตามลำดับ

4.เรื่องราวแบรนด์ต้องสร้างความเห็นอกเห็นใจ 

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ต่อมาคือ การเล่าเรื่องราวที่สร้างความเห็นอกเห็นใจ การเอาใจใส่ลูกค้าและใส่อารมณ์ในการเล่าเรื่อง จะช่วยให้การสื่อสารนั้นเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทีมงานที่ทำวิดีโอเกี่ยวกับ ‘Inclusion and Difference’ สำหรับกลุ่มโรงแรมชั้นนำในเดือนธันวาคมปี 2017 ได้เปิดเผยถึงกรณีตัวอย่างว่า ก่อนเริ่มต้นถ่ายทำวิดีโอ ได้พูดคุยกับพนักงานบางคนของโรงแรมด้วยตนเอง เพื่อการสร้างวิดีโอที่ช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้กับพนักงานในบริษัท ทำให้เรื่องราวที่สื่อสารออกมานั้นเกี่ยวข้องกันมากที่สุด และสามารถทำการตลาดแบรนด์ได้ แสดงให้เห็นว่าเมื่อเอาใจใส่ก็จะสามารถทำให้เกิดอารมณ์ร่วมได้ และผู้ชมทุกประเภทจะพบกับเรื่องราวของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกัน

5.ใส่วัฒนธรรมลงในเรื่องราวของแบรนด์

อย่าลืมใส่วัฒนธรรมลงในเรื่องราวของแบรนด์ที่ใช้ในการเล่าเรื่องออกไปสู่ผู้รับชม เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่สำคัญ ที่ผ่านมาวิดีโอโฆษณาที่มีการรวบรวมเอาวัฒนธรรมมากมายมาใส่ไว้ กลายเป็นผลงานที่โดดเด่น และสร้างการรับรู้ที่มีประสิทธิภาพต่อผู้บริโภค

ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ด้วยวิธีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ นำไปสู่การสื่อสารที่สัมฤทธิ์ผล เกิดอารมณ์ร่วมและเป็นที่น่าจดจำ สู่การกระตุ้นให้เกิดยอดขายได้ในที่สุด

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : http://thadcox.co.uk