6 บทเรียนแห่งความสำเร็จที่คุณต้องรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง
เส้นทางแห่งความสำเร็จเริ่มต้นเมื่อคุณลองสังเกตตัวเองในกระจกและกล้าที่จะวิจารณ์ตัวเอง เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่มีประสิทธิภาพ (และยังทำตามได้ไม่ยาก)จากเหล่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะแบ่งปันเพื่อคุณในการพัฒนาศักยภาพ
1. เลิกเก็บเรื่องคนอื่นมาคิดมากและเป็นตัวเอง
สิ่งแรก คุณจะมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อหากคุณมีความเชื่อมั่นในตัวเองโดยไม่แกว่งไปตามความคิดเห็นของคนอื่นที่มีต่อคุณ น่าเสียดายที่คนส่วนมากไม่มีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองรักเพราะห่วงว่าคนอื่นจะคิดหรือพูดอย่างไร ทำให้พวกเขาขังตัวเองอยู่ในกรอบ
Gary Vaynerchuk กล่าวว่า “ผมไม่สนใจเลยสักนิดว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมคิดอย่างไรกับตัวเอง แต่มันก็น่าทึ่งเหมือนกันที่ผมสามารถทำให้คนที่พยายามบังคับให้ผมทำสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยที่ไม่รู้จักตัวผมเลยให้ยอมถอยไปได้ จะว่าไปการไม่สนใจคนอื่นก็ต้องใช้ความอดทนที่สูงและคุณต้องมีของพอสมควร เมื่อคุณอายุสัก 91 คุณจะประหลาดใจหากรู้ว่าคุณสนใจคนอื่นน้อยลงมากเพียงใด นอกจากนั้นคุณต้องสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง คนส่วนมากที่เจอผมครั้งแรกอาจจะไม่ได้ประทับใจผมมากนักเพราะผมสบถและมีอีโก้สูง แต่สิ่งแต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือผมก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เหมือนกัน ผมไม่ใช่นักขายที่ชอบหลอกลวงลูกค้านะ ผมเป็นคนดีอยู่นะ
ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนักหรอก ในแง่ของจำนวนผู้ติดตาม การขายหนังสือ บทบาทที่มีต่อโลกใบนี้ แต่เมื่อผมออกมาจากบ้าน ผมพกทั้งความกระตือรือร้น ความมั่นใจและความรักในการแข่งขัน ผมยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเพราะมันเป็นเอกลักษณ์ของผมที่จะช่วยให้ผมชนะเสมอ สุดท้ายแล้ว อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่คอยขวางความสำเร็จของคุณอยู่ก็คือการมองโลกในแง่ร้าย แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถขวางทางสำเร็จของคุณ มันเป็นเรื่องยากเราที่จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจ นั้นแหละคือสาเหตุว่าทำไม 99 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจถึงไม่ประสบความสำเร็จ คุณจะต้องพยายามให้ถึงที่สุดที่จะผ่านวันแต่ละวันไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็แค่นั้นเอง คุณต้องเริ่มสร้างภูมิต้านทานในการอยู่รอดขึ้นมาให้เหมือนกับการค่อยๆ เรียงผิวหนังแต่ละชั้นจนมันแข็งแรงถ้าคุณไม่เตรียมพร้อมสำหรับพายุที่จะโหมเข้าใส่ และห้ามแก้ตัวอะไรทั้งนั้น”
Gary Vaynerchuk ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ VaynerMedia (มีพนักงานกว่า 700 คน มีรายได้กว่า 100 ล้านดอลล่าห์ต่อปี) นักเขียนหนังสือขายดีของ New York Times และเป็นที่ปรึกษาในการสร้างซีรีย์ Planet of the Apps
2. ลงทุนกับความเจริญส่วนบุคคล
Albert Einstein เคยกล่าวเอาไว้ว่า “การเติบโตทางปัญญาควรจะเริ่มตั้งแต่ตอนเกิดและสิ้นสุดเมื่อถึงความตายเท่านั้น” Henry Ford ก็เคยบอกว่า “คนที่หยุดเรียนรู้คือคนที่แก่แล้ว ส่วนคนที่มักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอคือคนที่ยังไม่เยาว์วัยอยู่เสมอ” สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือคุณไม่อาจจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปได้หากคุณเองมองข้ามที่จะเสริมสร้างความเจริญส่วนบุคคล ที่จะพัฒนาให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
คุณต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาได้ ลองเข้าร่วมโครงการต่างๆ และหาจุดอ่อนของคุณเองผ่านมุมมองของคนอื่น เพราะเรามักมองไม่เห็นนิสัยที่จะถ่วงตัวเราเองเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผมเริ่มหาเงินใหม่ๆ ผมจำตอนที่ซื้อนาฬิกา Rolex ได้และผมเคยคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นๆ ซึ่งความคิดแบบนี้แหละที่คอยถ่วงชีวิตผมเอาไว้
การมองหาความเจริญส่วนบุคคล (personal growth) คือโอกาสที่จะซ่อมแซมสิ่งที่ผิดพลาดในตัวคุณ คุณไม่จำเป็นต้องลดความเป็นของตัวเองโดยการหมกมุ่นอยู่กับอะไรในชีวิตที่จะถ่วงคุณเอาไว้ Craig Handley ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ ListenTrust กล่าว
3. เรียนรู้หรือเกษียณ
พวกเราส่วนมากคิดว่าทันทีที่เราจบการศึกษาจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยแล้วนั้นคือจุดจบของการเรียนรู้ แต่นั้นคือสิ่งที่ผิด คุณยังเป็นเด็กนักเรียนต่อไปจนกว่าคุณจะตาย คุณต้องสร้างหลักสูตรของตัวเองว่าจะเรียนรู้อะไรต่อไป
Roberto Orci สุดยอดโปรดิวเซอร์ของ Hollywood และผู้เขียนบทละครผู้ทำรายได้สุทธิมากกว่า 5 พันล้านดอลล่าห์ทั่วโลก กล่าวว่า คุณเคยมีความรู้สึกอยากจะอ่านหนังสือทั้งหมดที่มีอยู่ในห้องสมุดหรือเปล่า? ใช้ความรู้สึกนั้นในการเลือกเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่คุณแทบไม่รู้หรือรู้น้อยมาก หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติม และจงเป็นครูของตัวเอง มอบหมายการบ้านให้ตัวเอง อาจจะดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่หากคุณจัดการให้มันเข้าที่เข้าทางได้ คุณจะสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้น คุณก็อาจจะทำลายสัญชาติญาณในการเรียนรู้ของคุณเองได้ ถ้าคุณไม่สงสัยอะไรเลยเกี่ยวกับโลกนี้ รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณยังไม่รู้จักดีพออีกต่อไปแล้ว ผมหวังว่านั้นหมายความว่าคุณกำลังจะเกษียณนะ
4. มีความรับผิดชอบ
มันมีจุดหนึ่งในชีวิตของผมที่ผมรู้สึกว่าอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตและพัฒนาหลายสิ่งขึ้นไปอีกขั้น แต่หลังจากที่ผมสำรวจจิตใจตัวเองสักระยะ ผมได้เปลี่ยนมันให้เป็นความคิดที่ง่ายกว่าเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าผมอยากที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ผมต้องทำสิ่งที่ผมตัดสินใจไปในทุกๆ วันให้สำเร็จเสียก่อน แบบที่คนที่มีความรับผิดชอบพึงกระทำ
วิธีการที่คุณตัดสินใจเรื่องเล็กๆ ที่ไม่สำคัญอะไรจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจอื่นๆ ในชีวิตของคุณ มันเกี่ยวข้องกันหมด การที่จะประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขึ้น คุณต้องจริงจังกับการตัดสินใจทุกเรื่องและต้องเลิกตัดสินใจด้วยความขี้เกียจ อย่าปัดความรับผิดชอบของตัวเอง คำพูดของ Mark Bloom
– Mark Bloom ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่รู้จักและผู้ร่วมก่อตั้ง NetWorth Realty และมีมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กว่า 500 ล้านดอลล่าห์ในปี 2016
5. คิดเหมือนผู้นำ แต่ทำเหมือนนักเรียน
แน่นอนว่าคุณเป็นเจ้านายใหญ่ในชีวิตของคุณเอง แต่การทำตัวเป็นเจ้านายอยู่ตลอดไม่ได้ทำให้คุณไปไหนได้ไกลแน่นอน คุณควรเรียนรู้จากผู้คนรอบตัว นี้หมายถึงการทำตัวเป็นนักเรียนที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา
Sweta Patel ให้ความเห็นว่า การแสดงออกแบบนี้ทำให้ฉันอยู่ร่วมกับคนที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ได้ดีขึ้น พวกเขาเห็นความตั้งใจที่จะเรียนรู้ ความพร้อมที่จะพัฒนาและความทุ่มเทของฉัน ในฐานะนักเรียน ฉันพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลต่างๆ จากคนอื่น แม้ว่ามันจะเป็นคำวิจารณ์สัก 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพราะตลอดมา ฉันก็ได้ใช้คำวิจารณ์ของคนอื่นในการปรับตัว พัฒนาและทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นมาตลอด
แต่เมื่อคำวิจารณ์เริ่มฟังดูไร้เหตุผลเกินไป แทนที่ฉันจะเสียใจ ฉันจะให้กำลังใจตัวเองแทน ฉันจะดับไฟโกรธของตัวเองโดยใช้ความมั่นใจและพลังด้านบวกของตัวเอง ฉันรู้ว่าตัวตนข้างในฉันเป็นอย่างไร ความรู้จะปกป้องฉันจากทุกคนที่พยายามทำร้ายตัวตนข้างในของฉัน เมื่อคุณมีความมั่นใจจากภายในและแรงขับเคลื่อนที่ไม่อาจจะหยุดยั้งได้ คุณก็ไม่มีที่เวลาพอจะทำตัวหมดไฟหรอก
—Sweta Patel ที่ปรึกษาการตลาดแบบ startup และผู้ก่อตั้ง Silicon Valley Startup Marketing ที่ให้คำปรึกษา startup ที่เพิ่งเริ่มต้นมามากกว่า 200 บริษัทและรวมถึงบริษัทที่เติบโตสูง
6. ให้เวลาตัวเองใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง
การพัฒนาศักยภาพของตัวเองต้องเริ่มจากการดูแลตัวเอง นี้เป็นรูปแบบการใช้ชีวิตหลักๆ ของผมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เลย บางทีอาจจะมาจากการฝึกฝนตัวเองของผมเมื่อก่อนก็ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเริ่มหยุดดูแลตัวเอง ธุรกิจของผมก็เหมือนจะแย่ตามไปด้วย
AJ Rivera บอกว่า ไม่ใช่แค่การทานอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่เราต้องดูแลทุกส่วนของร่างกาย ทั้งจิตใจ อารมณ์ การเข้าสังคม จิตวิญญาณและร่างกายด้วย ลองทำสิ่งที่ง่ายๆ อย่างจัดตารางเดทกับคู่ชีวิตของคุณสัก 1 ครั้งต่อสองเดือน ทบทวนเป้าหมายของคุณ เตือนตัวเองให้ทำสมาธิหรือสวดมนต์หรือกระทั่งชวนเพื่อนๆ มาเล่นเกมส์ อาทิตย์ละครั้ง การยอมให้ตัวเองมีเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างมีความสุขสามารถพัฒนาสติและช่วยผ่อนคล้ายจิตใจ ทำให้คุณสามารถเอาชนะความท้าทายต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
– AJ Rivera ผู้เชียวชาญและที่ปรึกษาธุรกิจ seven-figure marketing และ CEO ของ PT Freedom
Source: https://www.success.com
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://theimpactnews.com, https://www.scriptmag.com, https://updatetoday.in.th, https://pattayaone.news