ขายปอเปี๊ยะ “ดิพฟรายด์” กลยุทธ์ปรับโฉมใหม่ ยัดความอร่อย
เปลี่ยนไส้ทุกเดือน!
แวะเวียนไปจตุจักรทีไร ครั้งเหนื่อยก็อยากจะหาร้านร้านอาหารว่างๆ นั่งสบายๆ สักร้าน เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจ “ขายปอเปี๊ยะ” ที่จะมานำเสนอกันในวันนี้ เขาร่วมหุ้นกับเพื่อนลงทุนเปิดกิจการร้านขายปอเปี๊ยะเจ้าดังที่จตุจักร ที่ไม่ว่าใครจะไปซื้อของหรือเดินเล่น ก็ต้องเป็นอันแวะไปชิมทุกครั้งนอกจากจะมี เจ้าของธุรกิจขายปอเปี๊ยะดังกล่าวภายใต้แบรนด์ดิพฟรายด์คือ “คุณณัฐวุฒิ ไตรสินสถิต” ซึ่งแต่เดิมนั้น ชอบมาเดินเล่นซื้อของแถวจตุจักรอยู่บ่อยๆ พอเหนื่อยทีก็อยากหาร้านอาหารสักร้านนั่งพัก เป็นร้านที่ไม่ต้องต่อคิวอะไรให้มากมาย และต้องแปลกแหวกไม่มีใครเหมือน จึงคิดอยากลงทุนร้านของทอดกินเล่นขึ้นมา
ประกอบกับในตอนนั้นได้ไปเรียนและฝึกงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้รับคำแนะนำให้ลองทำปอเปี๊ยะไส้หวานทอดขายดู เอาปอเปี๊ยะมาเป็นเมนูหลัก แล้วเปลี่ยนไส้ไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เบื่อ พอคิดได้อย่างนั้นก็ชักชวนเพื่อนเข้ามาร่วมกิจการด้วย โดยก่อนเปิดร้านก็ปรับปรุงพัฒนาจนได้สูตรที่พอใจ และเริ่มเปิดร้านขายปอเปี๊ยะครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2553
ปอเปี๊ยะที่วางขายในร้านที่มีทั้งแบบไส้เค็มคือใส่พวกเนื้อสัตว์และผัก และแบบไส้หวาน โดยมีให้เลือกถึง 10 ไส้ด้วยกัน 5 ไส้ในนี้จะเป็นไส้ประจำทุกอาทิตย์ ก็จะมีไส้คลาสสิค เห็ดรวม ต้มยำกุ้ง แฮมชีส และลาบไก่ ส่วนอีก 5 ไส้ จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ทุกเดือน เพื่อให้ลูกค้าได้ลือกซื้ออย่างหลากหลายมากขึ้น ส่วนไส้หวานก็จะมีหลายใส้ด้วยกัน เช่น อัลมอนด์ราดช็อคโกแลต มะม่วงครีมชีสราดสตรอว์เบอรร์รี บลูเบอรร์รีชีสพาย เป็นต้น ส่วนรสที่คนนิยมซื้อไปทานมากที่สุดคือ แฮมชีส ต้มยำกุ้ง พอลูกค้ามาซื้อทีไร ก็จะต้องสั่ง 1 ใน 3 ไส้นี้กลับไปทุกที และนอกจากจะมีหลายไส้ให้เลือกแล้ว ทางร้านก็มีน้ำจิ้มให้ลองกว่า 10 แบบ ให้เหมาะกับปาเปี๊ยแต่ละไส้อีกด้วย
ทางร้านได้มีการปรับปรุงพัฒนาไส้อยู่ตลอดเวลา หากไส้ไหนทำมาแล้วขายไม่ออก ก็จะเอาทิ้งไป แต่ในช่วงหลัง หุ้นส่วนคนใหม่ของร้านเพิ่งกลับมาจากไปทำงานในร้านอาหารที่ลอนดอน ทำให้ได้ไส้ใหม่ๆ ได้กลิ่นอายความเป็นฝรั่งมากขึ้น อาทิเช่น ลาซานญ่าหมู เป็นต้น บรรยากาศในร้านจะค่อนข้างสบายผ่อนคลาย ลูกค้าสามารถสนุกกับการเลือกไส้เองได้ ส่วนคนไหนอยากครีเอทเมนูปอเปี๊ยะ ทางร้านก็ทำออกมาให้ได้ เอากี่ชิ้น ขนาดเท่าไหร่ ก็สามารถบอกกับทางร้านได้เลย
ลูกค้าสามารถเลือกระดับความหิวของตนได้ หิวแบบนิดๆ หน่อย ทางร้านก็จะจัดไซส์ s ไป 3 ชิ้น ราคา 45 บาท หิวขึ้นมาอีกนิดนึง ก็จะเป็นไซส์ M มี 5 ชิ้น 70 บาท ถ้าหิวมากกว่านั้นก็ยังมีไซส์ L มีทั้งหมด 7 ชิ้น 20 บาท แถมน้ำใบเตย หากหิวโหยแบบสุดๆ ก็มีไซส์ XL ให้ทาน 9 ชิ้น พร้อมด้วยของทานเล่นเลือกได้ 1 อย่าง 150 บาท ส่วนของหวานที่ร้านจะมีไอศครีมทั้งถ้วยเล็ก 25 บาท และถ้วยใหญ่ 5o บาท
นอกจากนี้ทางร้านจะให้ความสำคัญกับลูกค้าผ่านวิธีการทอดที่จะต้องรอให้ลูกค้ามาสั่งก่อนจึงจะทอดไปให้ บางคนอาจมองอย่างนี้จะทำให้ช้าเสียเวลา แต่ทางร้านก็ยังคงยืดยันยัดเยียดความสดกรอบของปอเปี๊ยะให้ลูกค้า เพราะอุณหภูมิและความสดใหม่เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับอาหารทอด เนื่องด้วยทางร้านเป็นร้านขายปอเปี๊ยะสไตล์โฮมเมด จนหลังๆ คนเริ่มรู้จัก คนก็เริ่มมาซื้อเยอะขึ้น จนคิดว่าจะสร้างทีมฝ่ายผลิตขึ้นมาให้รองรับความต้องการให้ได้มากเพียงพอ และสร้างแบบแช่งแข็งขึ้มาเพื่อให้คนเก็บกลับไปทอดที่บ้านได้
ในส่วนของตัวร้านจะขยับขยายให้นั่งได้สะดวกสบายขึ้น นอกจากจะทำขายที่จตุจักรแล้ว ทางร้านยังรับออกงานจัดเลี้ยงหรือที่เรียกว่า Catering อีกด้วย จากการบอกต่อความอร่อยแบบปากต่อปากนี้ ทำให้มีคนเริ่มสนใจมาขอซื้อเฟรนไชส์ขายปอเปี๊ยะมากขึ้น ซึ่งทางร้านก็กำลังเตรียมรับในจุดนี้ ส่วนทางด้านลูกค้าที่มาทานก็มีตั้งแต่เด็กๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ หลักๆ ก็จะเป็นค่าขายของในจตุจักรเองและคนที่เดินทางมาซื้อของ
จากที่มองในภาพรวมโดยปัจจุบัน คุณณัฐวุฒิเล็งเห็นว่าธุรกิจตนกำลังเติบโดตไปได้สวย ถ้าเป็นไปได้ก็จะลองเปิดร้านขายปอเปี๊ยะดิพฟรายด์ของตนในต่างประเทศอีกด้วย
ข้อมูลติดต่อปอเปี๊ยะดิพฟรายด์
ชื่อร้าน : ดิฟฟรายด์
เบอร์ : 089-9667-1472
เว็ปไซต์ https://www.facebook.com/dipfried