ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ
ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ขนมทานเล่น ประเภท Snack ยังคงขายได้ในท้องตลาด ปัจจุบันมีขนมทานเล่นเกิดขึ้นมากมายหลากหลายจากวัตถุดิบต่างๆ เป็นทางเลือกให้ลูกค้า อีกทั้งยังมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก สำหรับวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งแบรนด์มาฝาก กับขนมทานเล่นที่ทำจาก “เห็ด” ตอบโจทย์คนรักสุภาพ ด้วยการปรุงแต่งรสชาติที่อร่อยลงตัว เกิดเป็นธุรกิจทำเงินอีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามอง ด้วยความแปลกใหม่และแตกต่างมีจุดขายที่น่าสนใจ

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” อีกหนึ่งแบรนด์ที่ดำเนินการในตลาดวางตำแหน่งสินค้าเอาไว้ที่สินค้าเพื่อสุขภาพ ก่อตั้งโดย “คุณพณัญญา ธิติบดินทร์” และ “คุณเศรษฐกาล เศรษฐภากรณ์ จาก “บริษัท มายาณกานต์ จำกัด ที่ร่วมผลิตภัณฑ์สินค้าขนมทานเล่นประเภทอบกรอบที่ทำจากเห็ดเป็นวัตถุดิบหลัก

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

เห็ดอบกรอบแบรนด์หัวเห็ด ทำการตลาดด้วยการดึงกระแสสุขภาพมาเป็นจุดขายของธุรกิจ โดยการหยิบเห็ดมาเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย จัดเป็นอาหารประเภทพืชผักที่เหมาะสมจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ สโลแกนของแบรนด์ยังกล่าวไว้ว่า “เห็ดกรอบ อร่อยเยอะ ประโยชน์แยะ” เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคในเรื่องของสุขภาพอย่างแท้จริง โดยทางบริษัทได้เลือกเอาเห็ด 2 ชนิดมาทำ ได้แก่ “เห็ดเข็มทอง” และ “เห็ดนางฟ้า” เนื่องจากเห็ดทั้งสองประเภทเป็นที่ร็จักในวงกว้างอีกทั้งยังนำมาทดลองแปรรูปแล้วมีรสชาติที่อร่อย

ขนมทานเล่นหัวเห็ด มีคุณลักษณะเป็นขนมเพื่อสุขภาพ สำหรับทานเล่นและแถมด้วยรสชาติที่อร่อย ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัว ใช้กรรมวิธีอบกรอบในการแปรรูปเห็ด สู่ขนมทานเล่นบรรจุห่อ รองรับการทานที่ง่ายสามารถทานได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ปัจจุบันสำหรับขนมทานเล่นที่ทำจากเห็ดถือว่ายังมีไม่มากนัก ในตลาดจะมีบ้างก็เป็นเห็ดชุบแป้งจากพวกสินค้า OTOP ซึ่งก็มีน้อย แต่สำหรับเห็ดอบกรอบแล้ว หัวเห็ดถือเป็นเจ้าแรกเลยก็ว่าได้ ถือเป็นจุดขายที่สำคัญจากความแตกต่างที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และเพื่อเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ กรรมวิธีการปรุงแต่งยังปราศจากผงชูรสอีกด้วย โดยเห็ดสด 1 กิโลกรัมจะนำมาทำเป็นขนมทานเล่นเหลือน้ำหนักประมาณ 6 ขีด ทั้งนี้เพื่อรสชาติที่อร่อยและลงตัวที่สุด

ที่มาของวัตถุดิบเห็ด ทางบริษัทจะติดต่อขอซื้อจากฟาร์มทางภาคตะวันตกประมาณ 4 ราย คัดสรรเฉพาะเห็ดที่ปลูกปลอดยาฆ่าแมลง ทั้งยังคัดเฉพาะเห็ดอ่อนมาทำเป็นขนมทานเล่นเท่านั้น เพื่อรสชาติที่อร่อย คงคุณภาพของอาหารเอาไว้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

สำหรับเงินลงทุนเริ่มต้นทางเจ้าของกิจการใช้เงินส่วนตัวของตัวเองประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานตลอดจนวิจัยพัฒนาสินค้าด้วยตัวเองทั้งหมด โดยโรงงานที่ก่อตั้งขึ้นนั้นมีกำลังผลิตอยู่ที่หมื่นซองต่อเดือน ต้นทุนดังกล่าวยังรวมไปถึงขั้นตอนของการตลาด ที่โปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก และมีการเริ่มวางจำหน่ายในปี 2558 ที่ผ่านมา

สำหรับแผนการตลาดของขนมทานเล่นแบรนด์หัวเห็ด ได้แก่ การใช้บล็อกเกอร์รีวิวสินค้า พร้อมทั้งการนำสินค้าไปเสนอขายต่อซุปเปอร์มาร์เก็ต ปัจจุบันวางขายที่ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต เดอะมอลล์ และร้านค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ สำหรับกลุ่มลูกค้ายังเน้นที่กลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มคนที่รักการทาน Snack ตั้งเป้าเพื่อทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยจะทำการตลาดในไทยให้เข็มแข็งก่อนแล้วค่อยขยายไปยังต่างประเทศ

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หัวเห็ดมีทั้งหมด 2 รายการ ได้แก่ เห็ดเข็มทอง รสดั้งเดิม กับเห็ดฝอย (ทำจากเห็ดนางฟ้า) รสดั้งเดิม ราคาขายปลีกซองละ 30 บาท (ขนาด 30 กรัม) เป้าหมายหลักที่วางไว้ตอนนี้ที่ยอดขายหลักหมื่นซองต่อเดือน สำหรับการผลิตตอนนี้อยู่ที่หลักพันซองต่อเดือนหรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน

ขนมทานเล่น “หัวเห็ด” เกาะกระแสสุขภาพเพื่อทำการตลาด จากเห็ดอบกรอบ

ข้อมูลติดต่อธุรกิจขนมทานเล่น หัวเห็ด
โทรศัพท์ : 0922749396
Facebook : Huahedkrob

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : หัวเห็ดอบกรอบ

แสดงความคิดเห็น