รวมกิ๊ฟช็อป 5 สินค้าทำเงิน แม้จะดูเงียบๆแต่ก็ยังขายได้และขายดี

รวมกิ๊ฟช๊อป 5 สินค้าทำเงิน แม้จะดูเงียบๆแต่ก็ยังขายได้และขายดี

สำหรับคนที่อยากเปิดร้านกิ๊ฟช๊อป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าร้านค้าอื่นๆ เพราะสินค้ากิ๊ฟช๊อปเป็นสินค้าที่สอดคล้องในชีวิตประจำวัน และช่วยเติมเต็มในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของใช้จำเป็นหรือของขวัญที่ให้กันในโอกาสต่างๆ วันนี้เราจึงรวมกิ๊ฟช๊อปมาให้ผู้ที่สนใจนำข้อมูลไปปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ว่าแต่สินค้ากิ๊ฟช๊อปยอดนิยมจะมีอะไรบ้างที่สามารถขายได้ดี ทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง

1.กิ๊ฟติดผม ยางรัดผม อุปกรณ์ตกแต่งผม

ถ้าหากพูดถึงหัวข้อของการรวมกิ๊ฟช๊อปทำเงิน ไม่พูดถึงสิ่งนี้คงไม่ได้กับอุปกรณ์ตกแต่งผมจำพวกกิ๊ฟติดผม ยางรัดผม หรือที่คาดผมสวยๆ ถือเป็นอีกหนึ่งความนิยมในหมวดกิ๊ฟช๊อปที่สอดคล้องอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้หญิงส่วนมาก ถือเป็นเครื่องประดับที่ทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง

2.ต่างหู  

ลำดับถัดมาจากเครื่องประดับตกแต่งเส้นผม สำหรับการรวมกิ๊ฟช๊อปยอดนิยมหนึ่งในนั้นคงต้องยกให้ต่างหู เครื่องประดับที่คุณผู้หญิงที่รักการแต่งตัวทั้งหลายเรียกว่าขาดไม่ได้ และต่างหูก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่วางขายในร้านกิ๊ฟช๊อป สามารถทำกำไรได้ไม่น้อยไปกว่าสินค้ากิ๊ฟช๊อปอื่นๆ มีต้นทุนต่ำแต่สามารถทำกำไรได้เหมาะสมทีเดียว

3.กำไล สร้อยข้อมือ

มาต่อกันที่สินค้าถัดไปของรวมกิ๊ฟช๊อป ก็คือเครื่องประดับบริเวณข้อมือ อย่างกำไลหรือสร้อยข้อมือ เป็นที่นิยมไม่น้อยสำหรับสินค้านี้ที่มีการวางขายอยู่ในร้านกิ๊ฟช๊อป และสามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในด้านต้นทุนถือว่าไม่สูง แต่สามารถตั้งราคาได้ดีเพื่อสร้างกำไร

4.เครื่องเขียน

รวมกิ๊ฟช๊อปกันต่อด้วยสินค้าเครื่องเขียน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยม และเป็นสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ร้านกิ๊ฟช๊อปด้วยเช่นกัน สินค้าหมวดนี้ ได้แก่ ปากกา ดินสอ สมุดบันทึก และอื่นๆ แต่ส่วนมากการขายในร้านกิ๊ฟช๊อปมักจะเน้นดีไซน์น่ารัก เอาใจวัยรุ่น แตกต่างจากการขายเครื่องเขียนในซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่รองรับการใช้งานเพียงอย่างเดียว

5.พวงกุญแจ

ปิดท้ายรวมกิ๊ฟช๊อป 5 อย่างยอดนิยมกับพวงกุญแจ เครื่องประดับกระเป๋านักเรียนยอดฮิตของเด็กวัยรุ่นทั้งหลาย แต่ไม่เพียงเท่านั้นเพราะพวงกุญแจหลายครั้งก็สารพัดประโยชน์ใช้ย่อย สามารถแขวนได้ทั้งกุญแจบ้าน กุญแจรถ และอื่นๆ ทำให้มากกว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่นแล้ว คนทั่วไปก็ซื้อพวงกุญแจไว้สำหรับใช้งานเช่นกัน

อยากขายกิ๊ฟช๊อปต้องทำอย่างไร?

สำหรับใครก็ตามที่อยากขายสินค้ากิ๊ฟช๊อปบ้างและกำลังมองหาแนวทาง วันนี้เราก็มีมาฝากด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากข้อมูลสินค้าน่าขายที่กล่าวไปข้างต้น

หาซื้อและจำแนกสินค้า

ก่อนอื่นต้องหาซื้อสินค้าเข้าร้านกันก่อน แหล่งสินค้าขายส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าประเภทกิ๊ฟช๊อปก็คือสำเพ็ง ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้ากระจุกกระจิกมากมายละลานตา จำหน่ายสินค้ายกแพ็คในราคาส่งสามารถสร้างกำไรได้อย่างเหมาะสม หลังจากซื้อมาแล้วก็ทำการแยกแยะสินค้ากันก่อน เพื่อตั้งราคาขาย โดยเริ่มต้นจากการแยกสินค้าแบบเรียบๆ กับแบบน่ารักหรือคอลเลคชั่นยอดนิยมออกจากกัน เช่น แยกประเภทกิ๊ฟติ๊ดผมสีดำธรรมดากับกิ๊ฟติดผมลายตุ๊กตาออกจากกัน หรือโบว์ผูกผมแฟชั่นออกจากโบว์ผูกผมที่ถูกระเบียบแล้วตั้งราคาให้แตกต่าง

ต้นทุนและการตั้งราคา

ต้นทุนสอดคล้องกับการตั้งราคาเสมอเพื่อการสร้างกำไร สำหรับต้นทุนยางรัดผม 60 บาทต่อโหล (12 ถุง) สามารถขายได้ถุงละ 10 บาท กิ๊ฟติดผมดำล้วน 10 แผง 70 บาท สามารถขายได้แผงละ 5-10 บาท กิ๊ฟติดผมแฟชั่นเริ่มต้น 12 ชิ้นราคาส่ง 50 บาท สามารถขายได้ตัวละ 5-10 บาท ที่คาดผมราคาเริ่มต้น 20 ชิ้น 50 บาท สามารถขายได้อันละ 5 บาท เป็นต้น

มาต่อกันที่ต้นทุนของต่างหูแฟชั่นที่ขายตามร้านกิ๊ฟช๊อปเริ่มต้นที่คู่ละ 5 บาท สามารถขายได้ราคาคู่ละ 10 บาทและต้นทุนคู่ละ 10 บาทสามารถตั้งราคาได้ตั้งแต่ 20-35 บาท อาจแยกประเภทก่อนขาย เช่น แบบสแตนเลสเรียบอาจขายถูกกว่าแบบประดับเพชร เป็นต้น

ต้นทุนกำไลและสร้อยข้อมือ ในส่วนของกำไรเริ่มต้นที่อันละ 20 บาทสามารถตั้งราคาขายได้ถึง 50 บาทต่ออัน และถ้าหากมีการใส่ในแพ็กเก็จจิ้งสวยหรู เช่น กล้องกำมะหยี่ จะสามารถอัพราคาได้เพิ่มเป็นอันละ 80-100 บาท ถือเป็นเทคนิคการขายที่เหมาะสมไม่น้อยเลยทีเดียว

ต้นทุนเครื่องเขียน ขายส่งสมุดบันทึกลายน่ารัก 60 ชิ้นราคาต่อเล่มอยู่ที่ 5 บาท สามารถตั้งราคาขายได้ถึง 20 บาทต่อชิ้น ราคาปากกากล่องละ 600 บาทบรรจุ 40 ด้ามตกด้ามละ 15 บาท สามารถตั้งราคาขายได้ด้ามละ 30 บาท เป็นต้น

ต้นทุนพวงกุญแจ วิธีการตั้งราคาควรแบ่งออกตามขนาดของพวงกุญแจ และตัวตุ๊กตาทั่วไปกับตุ๊กตายอดนิยมออกจากกัน อาจกำหนดไซส์ด้วยตัวเองเป็น 3 ขนาด S M L และถึงแม้ว่าทั้ง 3 ขนาดอาจจะรับมาในราคาเท่ากัน ก็สามารถตั้งราคาขายแตกต่างกันได้ รวมถึงลายทั่วไปกับลายยอดนิยมที่สามารถอัพราคาได้เช่นกัน ต้นทุนเริ่มต้นพวงกุญแจอยู่ที่โหลละ 80 บาทตกชิ้นละเกือบ 7 บาท สามารถตั้งราคาขายได้ที่ 15 บาทต่อชิ้น

ทำเลที่เหมาะสมของสินค้ากิ๊ฟช๊อป ได้แก่ หน้าโรงเรียน ตลาดนัดทั่วไป และตลาดนัดวัยรุ่น เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ